ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ศาลปัตตานีนัดไต่สวนพยาน ฝ่ายผู้ร้องซักถาม ตัวแทนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่หน่วยซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร คดีไต่สวนการตายนายอับดุลลายิบ  ดอเลาะ

ศาลปัตตานีนัดไต่สวนพยาน ฝ่ายผู้ร้องซักถาม  ตัวแทนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  เจ้าหน้าที่หน่วยซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร  คดีไต่สวนการตายนายอับดุลลายิบ  ดอเลาะ

18 October 2016

1296

  ****************************   เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559  เวลา 09.00 -16.00 นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ชั้นสอง ศาลจังหวัดปัตตานีกำหนดเป็นวันนัดไต่สวนการตายคดีหมายเลขดำที่ ช.6/2559  ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ผู้ร้อง นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ ผู้ตาย  และนางสาวกูรอสเมาะ ตูแวบือซา ผู้ร้องซักถาม ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย ในช่วงเช้า ศาลได้ไต่สวนพยาน ปากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลลายิบ คือ นายสัณฐาน  รัตนะ ได้เบิกความต่อศาล สรุปได้ความว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดปัตตานี ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการของคณะกรรมการฯ ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  โดยคณะกรรมการฯ ได้ทำการสอบสวนพยานบุคคลหลายปาก ทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถาม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ชันสูตรพลิกศพ และผู้ถูกควบคุมตัวที่อยู่ห้องข้างเคียงกับห้องที่นายอับดุลลายิบถูกกควบคุม   ผู้ถูกควบคุมตัวห้องข้างเคียงให้ถ้อยคำว่าก่อนเข้านอนในคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2558 เห็นผู้ตายปกติ และช่วงตอนใกล้รุ่งของวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ตื่นทำละหมาด ก็ได้ยินเสียงก็อก ๆ แก็ก ๆ จากห้องผู้ตาย คาดว่าผู้ตายน่าจะทำการละหมาดเช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามจึงได้ทราบว่า นายอับดุลลายิบเสียชีวิต รายงานการสอบสวนของคณะกรรมการฯ สรุปว่า ไม่ทราบสาเหตุการตาย และเชื่อว่าการเสียชีวิตของนายอับดุลลายิบ ไมได้เกิดจากกระทำของบุคคลอื่นแต่อย่างใด ในช่วงบ่าย ศาลได้ไต่สวนเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยซักถาม จำนวน 3 นาย ซึ่งเป็นผู้ทำการซักถามนายอับดุลลายิบขณะถูกควบคุมอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ได้แก่ ร้อยโทธีรวัฒน์ แก้วบุญ  สิบเอกสรศักดิ์  สนั่นทุ่ง  และจ่าสิบเอกสงคราม  นวลศรี  โดยพยานทั้งสามได้เบิกความต่อศาลทำนองเดียวกันว่า มีเจ้าหน้าที่ซักถามจำนวน 3 ชุด  ซึ่งพยานทั้งสามปากดังกล่าว เป็นผู้ซักถามคนละชุดกัน ร้อยโทธีรวัฒน์เป็นผู้ซักถามชุดแรกรับผิดชอบช่วง 14 วันคือตั้งแต่วันแรกที่ควบคุมนายอับดุลลายิบตามกฎอัยการศึก 7 วันและตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 7 วัน  สิบเอกสรศักดิ์เป็นผู้ซักถามชุดที่  2  ในช่วงวันที่ 24 – 30 พฤศจิกายน 2558 และจ่าสิบเอกสงครามเป็นชุดที่ 3 ช่วงเจ็ดวันสุดท้ายที่ขยายการควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ซักถามทั้งสามปากเบิกความต่อศาล สรุปได้ความว่า นายอับดุลลายิบถูกส่งตัวมาควบคุมที่หน่วยซักถามในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ได้ตรวจร่างกายโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร นายอับดุลลายิบ สุขภาพแข็งแรงดี  ได้เริ่มทำการเบิกตัวนายอับดุลลายิบไปซักถามในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ต่อเนื่องไปทุกวัน เมื่อครบช่วงเวลาซักถามของแต่ละชุด ผู้ซักถามจึงจะทำบันทึกสรุปผลการซักถามทั้งหมดในส่วนของตนเป็นเอกสารให้นายอับดุลลายิบลงลายมือชื่อ ซึ่งเป็นการรับสารภาพว่านายอับดุลลายิบมีส่วนในการเป็นผู้ร่วมก่อการร้ายที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไรกับใครบ้าง  พยานทั้งสามปากระบุว่านายอับดุลลายิบให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พยานคนหนึ่งเบิกความว่านายอับดุลลายิบเป็นคนพูดน้อย การซักถามใช้เวลานานกว่าจะได้คำตอบเพราะนายอับดุลลายิบใช้เวลาคิดนาน บางวันจำเป็นต้องซักถามในเวลากลางคืนโดยพยานอ้างว่าช่วงเวลากลางคืนเงียบสงบเหมาะแก่การซักถาม เจ้าหน้าที่ทหารทั้งสามปากเบิกความตรงกันว่า ห้องซักถามเป็นห้องที่จัดไว้เฉพาะที่อาคารหนึ่งในค่ายอิงคยุทธบริหาร อยู่ห่างจากส่วนที่เป็นห้องควบคุมประมาณ 500 เมตร  เมื่อเจ้าหน้าที่ซักถามขอรเบิกตัวนายอับดุลลายิบไปซักถาม จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งดูแลในส่วนห้องควบคุมนำตัวนายอับดุลลายิบไปส่งยังอาคารซักถาม ห้องซักถามอยู่บริเวณชั้นสองของอาคารซักถาม มีทั้งหมด 7 ห้อง แต่ละห้อง ผนังบุด้วยวัสดุหนาในลักษณะเก็บเสียงได้  ติดเครื่องปรับอากาศ บานประตูทำด้วยไม้อัดติดลูกบิดสำหรับปิดเปิดประตู ไม่มีหน้าต่าง  ซึ่งห้องซักถามดังกล่าวมีความแตกต่างจากห้องควบคุมตัว(ห้องพักผู้ถูกควบคุม) โดยห้องควบคุมตัวไม่มีการบุผนัง มีหน้าต่างซึ่งติดลูกกรงเหล็กดัด  ไม่มีเครื่องปรับอากาศ  ประตูทำด้วยเหล็กหนาไม่มีลูกบิดไม่สามารถปิดประตูจากภายในห้องได้ แต่มีห่วงเหล็กสำหรับอุปกรณ์คล้องปิดล็อกประตูจากภายนอก จ่าสิบเอกสงครามระบุว่าได้เบิกตัวนายอับดุลลายิบไปซักถามในช่วงวันที่ 1-3 ธันวาคม 2558 เป็นช่วงท้ายของการซักถาม เนื่องจากเห็นว่าได้ข้อมูลคำรับสารภาพของนายอับดุลลายิบครบถ้วนแล้ว ในช่วงการซักถามของตนเป็นการปรับทัศนะคติก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน  ได้ทำการสรุปผลการซักถามทั้งหมด แล้วนำไปให้นายอับดุลลายิบลงลายมือชื่อในช่วงค่ำของวันที่ 3 ธันวาคม 2558 ก่อน และกำหนดจะปล่อยตัวกลับบ้านในวันต่อมา เนื่องจากต้องทำการตรวจร่างกายนายอับดุลลายิบก่อนออกจากหน่วยซักถาม แต่ในเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2558 กลับพบว่านายอับดุลลายิบเสียชีวิตแล้ว ศาลนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องซักถามครั้งต่อไปในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.00-16.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของการไต่สวนพยานคดีนี้ ขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้ารับฟังการพิจารณาคดีของศาลตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้นติดตามคดีได้ที่ facebook page: Cross Cultural Foundation (CrCF)และ https://voicefromthais.wordpress.com/   ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ นายสากีมัน เบญจเดชา ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี   โทร 086-0374318 นายปรีดา นาคผิว   ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม   โทร 089-6222474

Recent posts