18 October 2016
1108
........................ ตามที่ ผู้ว่า สตง.ได้ออกมาแถลงเปิดเผยว่าไม่พบประเด็นการทุจริตค่าใช้จ่าย ๒๐.๙ ล้านบาท กรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ เช่าเครื่องบินเหมาลำของการบินไทย เดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนบวกสหรัฐอเมริกาที่มลรัฐฮาวาย เมื่อวันที่ ๒๙ ก.ย.- ๑ ต.ค.๕๙ ที่ผ่านมานั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยรู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่เร่งรีบออกมาแถลงผลการตรวจสอบเบื้องต้นดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้ครบถ้วน ถูกต้องตามขั้นตอน วิธีการ ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๓๙ (๒) (ก.) ประกอบมาตรา ๓๗ (๓) และมาตรา ๔๑ กำหนดไว้แต่อย่างใด ซึ่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวบัญญัติไว้ชัดเจนว่าจะต้องมีการ.... “ตรวจสอบการรับจ่าย การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินอื่นของหน่วยรับตรวจ หรือที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยรับตรวจ และแสดงความเห็นว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่ และอาจตรวจสอบการใช้จ่ายเงินการใช้จ่ายทรัพย์สินอื่นหรือการจัดซื้อจัดจ้างตามแผนงาน งานหรือโครงการของหน่วยรับตรวจและแสดงความเห็นว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป็นไปโดยประหยัด ได้ผลตามเป้าหมายและมีผลคุ้มค่าหรือไม่” ซึ่งกระบวนการเช่าเหมาลำเครื่องบินของการบินไทยดังกล่าว สังคมมีข้อพิรุธและข้อครหามากมาย อาทิ การใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่เกินเหตุ การใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินที่ไม่เหมาะสม การกินไข่ปลาคาเวียร์ การนำบุคคลที่ไม่สมควรเดินทางไปกับคณะ ฯลฯ ไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ และฝ่าฝืนค่านิยม ๑๒ ประการของหัวหน้า คสช. โดยชัดแจ้ง อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลของผู้เดินทางทั้ง ๓๘ คนที่ สตง. นำมาแถลงนั้น ก็เป็นเพียงเอกสารที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานคู่กรณีที่ถูกร้องเรียน เหตุใด สตง. ไม่แสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานอื่นมาถ่วงดุลยืนยัน เหตุใดจึงเชื่อแต่เฉพาะเอกสารของผู้ถูกร้องเรียนแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น อีกทั้งผู้บริหารการบินไทยก็ออกมาแถลงเมื่อก่อนหน้านี้ว่า รายละเอียดของค่าใช้จ่ายต้องรอทางสหรัฐส่งบัญชีเรียกเก็บมาก่อนซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ ๒ เดือนจึงจะทราบผล เหตุใด สตง. ยังไม่ทันเห็นเอกสาร จึงมีดวงตาทิพย์ที่สามารถล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าวได้ล่วงหน้า และเร่งรีบออกมาแถลงผลการตรวจสอบอย่างรุกลี้รุกรน สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอเรียกร้องให้ ผู้ว่า สตง. ได้พิจารณาทบทวนพฤติกรรมและการกระทำของตนเองเสียใหม่ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการก่อกำเนิดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๔๒ อย่างเคร่งครัด อย่าตกอยู่ภายใต้ดวงตาทิพย์หรือมือที่มองไม่เห็น เพื่อเรียกความศรัทธาต่อสาธารณชนให้กลับคืนมาก่อนที่จะสายเกินไป แถลงมา ณ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย