ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และนักกิจกรรมอีกสองคนอาจได้รับโทษจำคุกเนื่องจากเปิดโปงการทรมาน

ประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย  และนักกิจกรรมอีกสองคนอาจได้รับโทษจำคุกเนื่องจากเปิดโปงการทรมาน

27 July 2016

1330

ประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และนักกิจกรรมอีกสองคนอาจได้รับโทษจำคุกเนื่องจากเปิดโปงการทรมาน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องทางการไทยต้องยกเลิกการสอบสวนทางอาญาต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่มีชื่อเสียงทั้งสามคนโดยทันที รวมทั้งต่อประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งอาจถูกแจ้งข้อหาในวันนี้เนื่องจากการจัดทำและตีพิมพ์เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการทรมานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย นายสมชาย หอมลออ นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ และนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเมื่อเดือนที่แล้ว อาจต้องได้รับโทษจำคุกห้าปีและถูกปรับเป็นเงินประมาณ 170,000 บาท หากพบว่ามีความผิดฐาน “หมิ่นประมาททางอาญา” และ “ความผิดทางคอมพิวเตอร์” โดยบุคคลทั้งสามจะเข้าพบตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานีในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ซาลิล เช็ตตี้ (Salil Shetty) เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลไทยสัญญาจะประกาศใช้กฎหมายต่อต้านการทรมาน แต่นับเป็นความขัดแย้งที่พวกเขากลับคุกคามนักกิจกรรมที่พยายามเปิดโปงการกระทำอันน่ารังเกียจเช่นนี้             “ทางการไทยควรยุติการสอบสวนทางอาญาโดยทันที โดยยกเลิกข้อกล่าวหาต่อนักกิจกรรมทั้งสามคน และดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นอิสระและเป็นธรรมต่อกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงที่พวกเขาเปิดโปง เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องคุ้มครองนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่ปกป้องเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจากความรับผิด” นายสมชาย หอมลออ นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ และนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ เป็นสมาชิกของมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (มสผ.) และกลุ่มด้วยใจ พวกเขาได้ร่วมกันตีพิมพ์เผยแพร่รายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เสนอ 54 กรณีของการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพไทย เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความอ่อนไหว และมีรายงานการทรมานเกิดขึ้น ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ และเป็นหน่วยงานที่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษในรายงานการทรมานฉบับนี้ ได้แจ้งข้อหาต่อบุคคลทั้งสามเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ข้อกล่าวหาต่อบุคคลทั้งสามเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของการข่มขู่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทยที่จะต้องคุ้มครองสิทธิของพวกเขา ภายหลังรัฐประหารปี 2557 รัฐบาลทหารของไทยเพิ่มความพยายามในการปราบปรามเสียงที่เห็นต่างทุกรูปแบบ มีการจำกัดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม และการสมาคมอย่างกว้างขวาง เฉพาะในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ทางการได้ตั้งข้อหาต่อบุคคลกว่า 100 คน เนื่องจากต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม “กรณีที่กำลังเกิดขึ้นกับนักกิจกรรมซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งสามคนนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณของรัฐบาลทหารว่า ไม่มีบุคคลใดที่ปลอดภัยและอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาได้ ซาลิล เช็ตตี้กล่าว แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเห็นว่าบุคคลซึ่งถูกคุมขังเพียงเพราะใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกเป็นนักโทษทางความคิด และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวพวกเขาโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข   ข้อมูลพื้นฐาน นายสมชาย หอมลออเป็นนักกิจกรรมอาวุโสและเป็นอดีตประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (มสผ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชน ปัจจุบันนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติเป็นผู้อำนวยการของมูลนิธิ เมื่อเดือนที่แล้ว นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติได้รับเลือกตั้งเป็นประธานกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งเป็นการทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระจากการทำงานให้กับมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (มสผ.) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อมูลและการตีพิมพ์รายงานการทรมานดังกล่าว ในวันที่ 17 ธันวาคม 2558 ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 128 รัฐภาคีสหประชาชาติที่แสดงความเห็นชอบสนับสนุนมติขององค์การสหประชาชาติที่เรียกร้องให้ทางการงดเว้นการข่มขู่และตอบโต้นักปกป้องสิทธิมนุษยชน

Recent posts