12 July 2016
1320
ศาลจังหวัดฝาง นัดพิจารณา 2 คดี กรณีชาวบ้านบ้านขอบด้ง ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ชาวบ้านทำโฮมสเตย์ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐกลับถูกกล่าวหาว่าปุกรุกป่า วันที่ 11 กรกฎาคม 2559 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดฝาง นัดพิจารณาคดี 2 คดี ที่ชาวบ้านถูกกล่าวหาเรื่องบุกรุกป่า คือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ สว.8/2559 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดฝาง โจทก์ กับ นายสุริยา เกิดโอฬาร จำเลย และ คดีหมายเลขดำที่ สว.9/2559 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดฝาง โจทก์ กับ นายอาจหาญ จตุพรไพร จำเลย ในข้อหา บุกรุก ก่นสร้าง แผ้ว ถาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือยึดถือครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ และก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทั้งสองคดีเป็นผลกระทบต่อชาวบ้านอันเนื่องมาจากคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า คดีนี้ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่นและมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ข้อแนะแนะและประสานงานทำความเข้าใจกับผู้ได้รับผลกระทบเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่งที่ 64/2557 และแผนแม่บททวงคืนผืนป่าในพื้นที่บ้านนอแล และต่อมาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้สนธิกำลังเข้าตรวจยึดบ้านของนายสุริยา เกิดโอฬาร และบ้านของนายอาจหาญ จตุพรไพร ชาวบ้านที่ตกเป็นจำเลยในสองคดีดังกล่าวข้างต้น เพราะสร้างเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวมาพักในช่วงฤดูหนาว ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐให้สามารถสร้างที่พักแบบโฮมสเตย์ได้ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยสร้างบนพื้นที่เดิมตามที่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยและทำกินมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว ทั้งที่ไม่ได้บุกรุกป่าเพิ่มเติมแต่อย่างใด ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่นและมูลนิธิผสานวัฒนธรรมมีความเห็นว่าเมื่อนโยบายของรัฐมีความขัดแย้งเพราะเมื่อก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งคสช.ที่ 64 ชาวบ้านได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากรัฐให้สร้างโฮมสเตย์ต่อมาถูกฟ้องดำเนินคดีตามโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนเรื่องสิทธิในที่ดินและป่าไม้ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 พนักงานอัยการจังหวัดฝางได้ยื่นฟ้องชาวบ้านทั้งสองคน ดังกล่าวต่อศาลจังหวัดฝาง เป็นคดีอาญา หมายเลขดำที่ สว.8/2559 และหมายเลขดำที่ สว.9/2559 โดยอาศัยตามความในมาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ที่กำหนดให้ป่าลุ่มน้ำฝางในตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยกล่าวหาตามฟ้องความว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2558 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้ง 2 คดีได้กระทำความผิด กล่าวคือ