ข้อเรียกร้องของภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
31 May 2016
1470
ทางเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านยาเสพติด ซึ่งประกอบด้วยมูลนิธิรักษ์ไทย มูลนิธิโอโซน มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ และเครือข่ายผู้ใช้ยาประเทศไทยได้ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติ เรื่อง “การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน" ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพมหานคร โดยตลอดทั้ง 2 วัน เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการเรื่องยาเสพติดในอนาคตของประเทศไทย
ภายใต้สถานการณ์นโยบายยาเสพติดของประเทศไทย จากอดีตถึงปัจจุบันที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการจับกุมปราบปรามเพื่อให้ยาเสพติดหมดไป ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด มีผู้ใช้ยาเสพติดรายใหม่และอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น และก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่การดำเนินงานนโยบายด้านการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติดกลับไม่มีความต่อเนื่องอย่างชัดเจนเพียงพอทั้งที่เป็นมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทย อีกทั้งการปรับปรุงกฎหมายยาเสพติดยังไม่เป็นไปตามหลักการ“ผู้เสพ คือผู้ป่วย” ไม่ใช่อาชญากร
ซึ่งการแก้ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยต้องยึดตามพันธกรณีในอนุสัญญาหรือกติการะหว่างประเทศในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ ว่าด้วย ปัญหายาเสพติดโลก (UNGASS2016) ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายนพ.ศ.2559ณ องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ใช้ยาเสพติด
ทางภาคประชาสังคมตามรายนามที่กล่าวไปแล้วข้างต้นจึงมีข้อเรียกร้องต่อการแก้ปัญหายาเสพติดของประเทศไทย 2ประเด็นหลักดังต่อไปนี้
ประเด็นที่ 1 ข้อเรียกร้องต่อการดำเนินงานลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด (Harm Reduction)
- ขอให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นผู้อำนวยการ ประกาศนโยบายลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด Harm Reduction โดยด่วน
- นโยบายลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด Harm Reduction ที่ประกาศโดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) ต้องมีแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องและสามารถปฏิบัติได้จริงรวมทั้งมีกระบวนการประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม
- ขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหายาเสพติด 3 กระทรวงหลัก ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง ยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทย กำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่สนับสนุนต่อการทำงานลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด
- ขอให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ภาคประชาสังคมและผู้ใช้ยาเสพติดเข้าร่วมในการดำเนินการ ติดตามและประเมินผล รวมถึงจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด
ประเด็นที่2 ข้อเรียกร้องต่อร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด
- ขอให้กระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้จัดทำร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ต้องบรรจุแนวทางการทำงานลดอันตรายจากการใช้สารเสพติดHarm Reductionให้ชัดเจน โดยนำมาใช้ได้ทั้งประเทศ และไม่ระบุให้เป็นทางเลือกหรือใช้เพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น
- ขอให้กระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้จัดทำร่าง เสนอให้ภาคประชาสังคมเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้ข้อคิดเห็นและการพิจารณาร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดในทุกขั้นตอน
- ให้ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ต้องยึดหลักการสำคัญดังต่อไปนี้
- ยกเลิกโทษทางอาญากับผู้เสพและผู้ครอบครองเพื่อเสพโดยให้นำมาตรการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด Harm Reduction มาใช้แก้ปัญหาแทนมาตรการทางกฎหมาย
- ยกเลิกการบังคับตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดโดยผู้บังคับใช้กฎหมายและให้บทบาทดังกล่าวเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านสาธารณสุขเท่านั้น
- ยกเลิกการบังคับบำบัดทุกรูปแบบ และต้องมีทางเลือกสำหรับการบำบัดผู้ติดโดยใช้หลักการดูแลรักษาทางด้านสาธารณสุขและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ วัฒนธรรม ประเพณี
- ในการร่างประมวลกฎหมายและการจัดทำอนุบัญญัติต่างๆ ตามร่างประมวลกฎหมายนี้ ต้องเน้นให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ตัวแทนผู้ใช้ยา
- พัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม ชุมชนและผู้ใช้ยา ในการวางยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ