10 March 2016
1084
5 มีนาคม 2559 เวลา 12.00. ตัวแทนชุมชมคลองไทรพัฒนาสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ สกต.นำโดยนายธีรเนตร ไชยสุวรรณและตัวแทนตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) อีกจำนวน6 คนได้เดินทางไปที่จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมงานและยื่นหนังสือร้องเรียนกรณี ปัญหาที่ดินคลองไทรพัฒนากับ(คุณเตือนใจ มีเทศน์ อนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ)ขณะที่เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา สงขลาพื้นที่โครงการสร้างสายส่งไฟฟ้าตัดผ่ากลางป่า กระทบต่อน้ำใช้ อ.หาดใหญ่ นายประทีป ระฆังทอง ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ได้พูดคุยและเสนอให้ กสม. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อหาทางออกร่วมกัน กรณี ที่ดินชุมชนคลองไทร ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดี ได้นำหมายบังคับคดี ของ บริษัทจิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด เข้ามาติดบริเวณชุมชน ในวันที่ 18พฤจิกายน2558 ข้อความในหมายบังคับคดี ได้แจ้งให้บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด พร้อมบริวารออกไปจากที่พิพาทและให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของจำเลย ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษ ภายใน 8 วัน นับจากวันปิดประกาศ ซึ่งผู้ยื่นคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษทั้งหมด 57คน ตั้งรกรากอยู่อาศัยและทำกินมาตั้งแต่ ปี 2551 ต่อเมื่อ 29 กุมภาพันธ์2559 ต่อมาตัวแทนชุมชนและคณะทนายความสิทธิมนุษยชน จึงเดินทางไปยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาล ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ที่ศาล จังหวัดกระบี่ เพื่อยืนยันว่าชุมชนไม่ใช่บริวารของ บริษัทฯ แต่เป็นเกษตรกรผู้ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองและเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และเป็นสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) มีวัตถุประสงค์เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐ และตามหลักสิทธิมนุษยชน หลังจากได้ยื่นคำร้องฯ ศาลได้นัดฟังคำไต่สวนในวันที่29 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09.00น.ตัวแทนชุมชนซึ่งเป็นผู้ร้องได้เดินทางไปตามนัดของศาลจังหวัดกระบี่ และได้ทราบว่า เมื่อวันที่24 กุมภาพันธ์ 2559สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดกระบี่ ได้ยื่นคัดค้านคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษ ของนายธีรเนตร ไชยสุวรรณ และพวกรวม 57 คน โดย นายมานะ วงศ์จันทร์ พนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ในฐานะทนายความโจทก์ (ส.ป.ก.) ยื่นคัดค้านว่าชุมชนคลองไทรไม่มีความชอบธรรมในการอยู่อาศัยใน ทั้งนี้เพราะตามความเป็นจริงกรณีที่ดิน ส.ป.ก. ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกระบี่ เพียงแต่ “ ผ่อนผันให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้จนกว่ากระบวนการฟ้องขับไล่บริษัทและนายทุนจะแล้วเสร็จ ดังนั้นจึงหาใช่การให้สิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามกระบวนการจัดที่ดินตามกฎหมายไม่ ” ฉะนั้นหลังจากคดีสิ้นสุด ส.ป.ก. ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ต้องการเคลียร์พื้นที่แปลงดังกล่าวให้เป็นแปลงว่างก่อนนำมาจัดสรรให้กับเกษตรกรที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป และหากเกษตรกรชุมชนคลองไทรพัฒนาประสงค์ที่จะรับการจัดสรรที่ดินจาก ส.ป.ก. ก็ขอให้ยื่นคำร้องเพื่อขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแปลงดังกล่าว จากหลัง ส.ป.ก. ได้ขับไล่บริษัทฯ(ความเป็นจริงมีเพียงคนงาน 1ครอบครัว หรือ 3 - 4คนเท่านั้น) รวมทั้งขับไล่สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ชุมชนคลองไทรพัฒนา ออกจากพื้นที่หมดแล้วก่อนจัดสรร นักข่าวพลเมืองสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้