ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ร่วมส่งดวงวิญญาณอาจารย์ณรงค์ นักสู้เพื่อสิทธิของคนพิการ

ร่วมส่งดวงวิญญาณอาจารย์ณรงค์  นักสู้เพื่อสิทธิของคนพิการ

1 March 2016

1759

 สมาชิกวุฒิสภา คนพิการคนแรกของประเทศไทย สู่สุคติในสัมปรายภพ ท่านอาจารย์ณรงค์ฯ ได้ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 สิริอายุ 80 ปี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพอาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 16.30 น. ณ เมรุวัดชลประทานรังสฤษดิ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญและผู้ที่เคารพรักท่านอาจารย์ไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ... ท่านอาจารย์ณรงค์ฯ เป็นปูชนียบุคคลผู้มีคุณูปการต่อคนพิการและสังคมไทยอย่างสูงยิ่ง ท่านเป็นแบบอย่างของชีวิตและการต่อสู้ของผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เนื่องจากท่านมีความพิการข้อติดที่สะโพก สันหลัง คอ ไหล่ (บางองศา) กรามนิ้วเท้าบางนิ้ว ต้องยืนตลอดเวลา นอกจากนอน นั่งไม่ได้ ต้องใช้ไม้ค้ำยันเวลาเดิน มาตั้งแต่อายุ 22 ปี ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า แองกูโลสซิ่ง สปอนดิไลติส (ข้ออักเสบ) แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ดังที่ คุณอำนวย กลิ่นอยู่ ได้เขียนไว้ในคำนิยม ของหนังสือ "สมาชิกวุฒิสภา คนพิการคนแรก ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ ชีวิตและการต่อสู้ของผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา" (เรียบเรียง โดย วิปาลี จันทรโรจน์) ซึ่งเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 เนื่องในโอกาสที่ท่านมีอายุครบ 77 ปี และนำมามอบเป็นหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ ... คุณอำนวยฯ ได้เขียนถึงท่านอาจารย์ณรงค์ฯ ไว้ว่า "บนถนน คนสู้ อย่ารู้ถอย อย่ารอคอย วาสนา จะพาต่ำ จะชั่วดี มีทั่ว เพราะตัวทำ เป็นผู้นำ ต้องพึ่งตน คือคนจริง ... อาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ เป็นนักต่อสู้ เป็นครูที่ดี เป็นผู้ที่มีหัวใจความเป็นครูมากกว่าจะคำนึงถึงค่าตอบแทน...อาจารย์ณรงค์ เป็นครูผู้สอนที่มุ่งหวังให้ลูกศิษย์มีความรู้ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง และท่านยังเป็นผู้ต่อสู้ให้มีพระราชบัญญัติคนพิการปี 2535 ทั้งยังเสนอให้รัฐจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่คนพิการอีกด้วย ...บุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่มีหัวใจความเป็นครูผู้ให้ ทั้งเป็นนักสู้ต่อปัญหา และอุปสรรคอย่างไม่ท้อถอย..." thaingo010359-2 ในบทนำของหนังสือเล่มดังกล่าว ซึ่งเขียนโดยท่านอาจารณ์ณรงค์ฯ เอง ความตอนหนึ่งกล่าวว่า "เมื่อเป็นเด็กหนุ่มสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สอบเข้ามาเรียนโรงเรียนเตรียมนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ร่วมรุ่นกับเพื่อนที่ต่อมาเป็นถึงนายกรัฐมนตรี อนาคตของผมก็เกิดดับวูบ เมื่้อเกิดมีโรคประจำตัว ไปผ่าตัดแล้วพิการ ต้องออกมาใช้ชีวิตเป็นคนพิการ หวนกลับมาสู้ชีวิตใหม่ เรียนหนังสือใหม่ มีงานทำ มีครอบครัว มีลูก เป็นครอบครัวเล็กๆ ขนาดกระเป๋า จนมีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อช่วยตัวเองได้ดีแล้ว ก็เริ่มกลับไปช่วยสังคม สังคมที่ใกล้ตัวที่สุด คือ สังคมของคนพิการ ทำงานช่วยผู้อื่นได้ 25 ปี โดยมิหวังผลตอบแทนอะไร แต่ฟ้ามีตา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นคนพิการคนแรกในประเทศไทย เมื่ออายุครบห้ารอบ 60 ปี... กว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาจวบอายุครบหกรอบครึ่งได้ ชีวิตของผม คงจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่่ท้อแท้ คิดว่าตัวเองไร้ค่า โดยเฉพาะคนที่พิการภายหลัง ถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ผมจึงพยายามเขียนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตของคนพิการที่สู้ชีวิต จนกประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง..." ในบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ เป็นบทที่ว่าด้วย "มรณานุสติ" ซึ่งท่านอาจารย์ณรงค์ฯ ได้เขียนไว้ว่า "...ถ้าผมจะต้องเสียชีวิตในวันหรือสองวันนี้ ด้วยความจริงแห่งพระไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่ใช่ตัวใช่ตน (อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนัตฺตา) ผมก็ไม่มีอะไรจะต้องห่วงใยอีกแล้ว เพราะเมื่อผมมีชีวิตอยู่ ผมได้ทำงานเต็มที่แล้ว ผมดำรงชีวิตอยู่โดยมีธรรมะของพระพุทธเจ้าคอยกำกับชีวิต ผมภูมิใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนา พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ ธรรมํ สรณํ คจฺฉามิ สังฆํ สรณํ คจฺฉามิ ผมมิได้ว่อกแว่กนับถืออย่างอื่นยิ่งกว่าเลย" ท่านอาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ จึงนับเป็นแบบอย่างของผู้ที่อุทิศตนเพื่อผู้อื่นโดยแท้ ผลแห่งการทุ่มเททำงานเพื่อคนพิการของท่านก็ได้บังเกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมและยังประโยชน์แก่คนพิการในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการมีพระราชบัญญัติคนพิการ (พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ฯลฯ) การที่คนพิการได้รับเบี้ยยังชีพรายเดือน และการขับเคลื่อนงานในเชิงนโยบายต่างๆ ของท่านอีกมากมาย ดังที่สถานีโทรทัศน์ NHK ของประเทศญี่ปุ่น ได้คัดเลือกท่านเป็นคนพิการดีเด่นหนึ่งในสี่คนของโลก มีการถ่ายทำประวัติเผยแพร่ทั่วญี่ปุ่นเป็นเวลา 30 นาที เมื่อ พ.ศ. 2540 นอกจากนี้ ท่านยังเป็นแบบอย่างของบุคคลผู้ดำรงชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยแท้ คุณูปการของท่านอาจารย์ณรงค์ฯ จึงเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อประเทศชาติและสังคม ดังพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ว่า "ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ตัวท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์" พวกเราทั้งหลายขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณงามความดีทั้งหลายที่ท่านอาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ ได้บำเพ็ญมา จงมารวมกันเป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพลวปัจจัย อำนวยให้ท่านอาจารย์ณรงค์ฯ ประสบแต่ความสุขในสัมปรายภพ ...พวกเราขอสัญญาว่าจะได้สานต่อปณิธานของท่านอาจารย์ในการอุทิศตนเพื่อคนพิการและสังคม ตามแนวทางและแบบอย่างที่ท่านอาจารย์ได้วางรากฐานไว้สืบต่อไป อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข ...สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา บังเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้เป็นความสุข”... สาธุ สาธุ สาธุ ครับ _/||\_ อนึ่ง สามารถรับชมแนวคิดและการทำงานของท่านอาจารย์ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ ที่ผ่านมาได้ที่รายการ "ประชาชนสนทนา ณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ" ได้ที่ www.youtube.com/watch?v=ffNm5p1wdQA

Recent posts