ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

คดี “อภิชาต” ชูป้ายคัดค้านรัฐประหารหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ 

คดี “อภิชาต” ชูป้ายคัดค้านรัฐประหารหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ 

11 February 2016

1391

  วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ เวลา 09.00 น. ณ ศาลแขวงปทุมวัน จะมีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง จ.ส.อ.อภิชาต พงษ์สวัสดิ์ นักกิจกรรมและนักวิชาการด้านกฎหมายรุ่นใหม่ เป็นจำเลยในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 8, 11 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 215 วรรคแรก, 216 และ 368 วรรคแรก เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558  (คดีหมายเลขดำที่ 363/2558) จากกรณีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร  เพื่อคัดค้านการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 คดีนี้พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นเหตุในการฟ้องคดีเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร และฉบับที่ 38/2557 เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจศาลทหาร ซึ่งทั้งสองฉบับลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 คดีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทหารตามประกาศสองฉบับดังกล่าว ในกระบวนการดำเนินคดี ได้มีการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยไปเมื่อวันที่ 11 และ 30 กันยายน 2558 และวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 โดยฝ่ายโจทก์ได้นำพยานเข้าสืบจำนวน 2 ปาก คือ  ร.ท.พีรพันธ์ สรรเสริญ นายทหารสารวัตร กองพลทหารที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)  และ ร.ต.ท.ชลิต มณีพราว พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ.ส.อ.อภิชาต พงษ์สวัสดิ์ จำเลย ได้เบิกความยืนยันต่อศาลว่า การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 เป็นการแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยต่อการรัฐประหารโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และเห็นว่าขณะนั้นการรัฐประหารยังไม่สำเร็จ จึงเป็นหน้าที่ประชาชนที่จะต้องพิทักษ์ปกป้องรัฐธรรมนูญ คัดค้านการได้มาซึ่งอำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้ ฝ่ายจำเลยยังมี รศ.จรัญ  โฆษณานันท์  นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติปรัชญา  สิทธิมนุษยชน  อาชญาวิทยา  สังคมวิทยากฎหมาย ได้เบิกความต่อศาลในประเด็นความชอบด้วยกฎหมายของการประกาศกฎอัยการศึก การยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติสำเร็จเมื่อใด  ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองขัดต่อรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) หรือไม่ และสิทธิของประชาชนในการต่อต้านการรัฐประหาร โดยมีรายละเอียดในประเด็นต่างๆ ต่อไปนี้
  1. การประกาศกฎอัยการศึกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? : การประกาศกฎอัยการศึกของประเทศไทยมี 2 กรณี คือ กรณีการประกาศใช้กับพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ ถือเป็นพระราชอำนาจต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าของพระมหากษัตริย์ และกรณีการประกาศใช้ในแต่ละพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาของทหารในแต่ละพื้นที่มีอำนาจในการประกาศใช้ได้ และการประกาศกฎอัยการศึกจะมีผลเมื่อมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว แต่ประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ซึ่งมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในวันดังกล่าว และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 2/2557 เรื่องการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรนั้น  เป็นการประกาศโดย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก โดยไม่ได้มีพระบรมราชโองการ จึงเป็นการประกาศกฎอัยการศึกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  2. การยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติสำเร็จเมื่อใด ? : ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495 ว่า การล้มล้างอำนาจเพื่อเปลี่ยนรัฐบาลโดยใช้กำลังในตอนต้นอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนกว่าจะได้รับการยอมรับจากประชาชน หมายความว่า การรัฐประหารจะสำเร็จก็ต่อเมื่อมีการยอมรับและไม่มีการต่อต้านจากประชาชน โดยมีนักทฤษฎีกฎหมายอธิบายไว้ว่า การจะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้ คนในประเทศนั้นๆ จะต้องปฏิบัติตามเชื่อฟังอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันอาจจะมีการยึดอำนาจสำเร็จแล้ว แต่ขณะที่มีการฟ้องคดีนี้เห็นว่าการยึดอำนาจยังไม่สำเร็จ
  3. ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองขัดต่อรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) หรือไม่ ? : ICCPR ข้อ 19 ได้รับรองคุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นไว้  โดยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ได้ มาตรา 4 ก็ ได้บัญญัติรับรองเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไว้  มีผลผูกพันตามพันธกรณีระหว่างประเทศเช่นกัน  ซึ่งประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 มีการจำกัดสิทธิของประชาชนดังกล่าว ประกาศจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 4 และ ICCPR ข้อ 19 โดยหลักเมื่อกฎหมายลูกมีลักษณะขัดต่อกฎหมายแม่แล้ว กฎหมายแม่ย่อมมีอำนาจมากกว่า
  4. ประชาชนมีสิทธิที่จะต่อต้านการรัฐประหารหรือไม่ ? :  อำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายประชาชนมีสิทธิที่จะไม่เชื่อฟังได้  แม้จะมีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติบังคับใช้แล้ว แต่ประชาชนยังคงมีสิทธิในการที่จะไม่เห็นด้วย  การกระทำของจำเลยในคดีนี้ถือเป็นการป้องกันสิทธิในการแสดงออกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68  และเมื่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 4 และ ICCPR ข้อ 19 แล้ว จึงไม่ถือว่าจำเลยกระทำความผิด
ทั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 นั้น ถือเป็นเหตุการณ์แรกที่ประชาชนได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อคัดค้านการ รัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยในวันดังกล่าวได้มีการควบคุมตัวประชาชนจำนวน 5 คน เพื่อดำเนินคดี ซึ่ง จ.ส.อ.อภิชาต ก็เป็นหนึ่งในประชาชนที่ถูกควบคุมตัวและถูกดำเนินคดี ซึ่งสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่ จ.ส.อ.อภิชาต อย่างไรก็ดี ภายหลังจากเหตุการณ์รัฐประหารยังคงมีประชาชนออกมาทำกิจกรรมแสดงออกเชิง สัญลักษณ์และถูกดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง   ติดตามข้อมูลข่าวเพิ่มเติม www.prachatai.com/category/อภิชาติ-พงษ์สวัสดิ์ ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)  02-6934939, 02-6930682 -- สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) โทรศัพท์ /แฟ๊กซ์ : 02-6930682 อีเมล์ : hrla2008@gmail.com www.naksit.org

Recent posts