3 February 2016
1175
( ขอบคุณภาพจาก workpointtv.com ) จากเหตุการณ์ความรุนแรงอันเกิดจากกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 100 คน เข้าทำร้ายชุมชนชาวเลบ้านราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2559 ที่ผ่านมาและทำการปิดทางสาธารณะเข้าออกพื้นที่โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่พร้อมรถไถเพื่อปิดทางและทำลายเครื่องมือประมง ทำให้ชาวชุมชนได้รับบาดเจ็บ เครื่องมือประมงได้รับความเสียหายจำนวนมาก นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในสังคม ที่สะท้อนความรุนแรงอันเกิดจากการสมรู้ร่วมคิดระหว่างอำนาจรัฐราชการและทุนที่มุ่งหวังกอบโกย แย่งชิงทรัพยากรทีดินชุมชนโดยมิชอบ รวมถึงการเพิกเฉยต่อการย่ำยีและการละเมิดสิทธิชาวชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานอย่างยาวนาน ซึ่งประจักษ์ชัดทั้งในแง่การศึกษาวิจัย และข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ชมรมเพื่อนนักพัฒนาภาคใต้ อันเกิดจากการรวมตัวของผู้นำ กลุ่ม/ องค์กรชุมชน นักวิชาการ นักพัฒนาเอกชนในภาคใต้ และได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างใกล้ชิด เห็นว่าการกระทำอันอุกอาจ ท้าทายกฎหมาย และการพร้อมใช้ความรุนแรงโดยปราศจากมนุษยธรรมใดๆ ในครั้งนี้เป็นผลมาจากความย่ามใจในอำนาจ การรับใช้ระบบทุนนิยมของกลไกรัฐในท้องถิ่น รวมถึงการเผยให้ถึงโครงสร้างอันบิดเบี้ยวที่เอื้อประโยชน์แก่คนส่วนน้อยที่มีอภิสิทธิ์ในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหากปราศจากการดำเนินการใดๆในการยุติปัญหาอย่างชอบธรรม รักษาไว้ซึ่งสิทธิชุมชน ทั้งต่อสิทธิตามกฎหมายในประเทศ และสิทธิตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (CERD) และปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง เป็นต้น แล้วอาจเป็นการสั่งสม “ชัยชนะบนความ อยุติธรรม” ที่พร้อมนำไปสู่การใช้ความรุนแรงรอบใหม่ทั้งต่อชาวราไวย์และชาวชุมชนในพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต ชมรมเพื่อนนักพัฒนาภาคใต้จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและสังคมไทย ดังนี้