Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

แถลงการณ์ เรื่อง ให้ยุติการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ

แถลงการณ์  เรื่อง ให้ยุติการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ

26 January 2016

1088

  ด้วยสิทธิในชีวิตและร่างกายของบุคคลเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ โดยถูกรับรองและคุ้มครองไว้ทั้งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง พ.ศ. 2509 ตลอดจนอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรีพ.ศ. 2527(Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment: CAT) ซึ่งประเทศไทยเข้าเป็นภาคี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ. 2549 (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance: CED) ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามว่าจะเข้าเป็นภาคี จึงมีหน้าที่ที่ต้องเคารพ คุ้มครองและส่งเสริมให้สิทธิตามพันธกรณีเกิดขึ้นจริง   องค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีรายชื่อปรากฏตามท้ายแถลงการณ์นี้ มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการใช้อำนาจรัฐในช่วงที่ผ่านมาและปัจจุบัน ที่เข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกายของบุคคล โดยเฉพาะสถานการณ์การจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลในหลายกรณี อาทิ การควบคุมตัวนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่คลุมเครือในเวลาต่อมา การควบคุมตัวนายฐนกร ศิริไพบูลย์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 การควบคุมตัวนายธเนตร อนันตวงษ์ นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2558 ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล การควบคุมตัวนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ในเวลากลางคืนของวันที่ 20 มกราคม 2559 โดยชายฉกรรจ์ 8 คนแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารปิดบังใบหน้า และล่าสุดการควบคุมตัวนายจักรพล ผลลออ สมาชิกกลุ่มลูกชาวบ้าน มหาวิทยาลัยบูรพา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2558 โดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน ตามที่ปรากฎผ่านสื่อมวลชนนั้น   กรณีการจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลในหลายกรณีดังกล่าวข้างต้น มีข้อมูลและข้อร้องเรียนที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติการที่เข้าข่ายเป็นการจับกุมหรือควบคุมตัวโดยพลการ และขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพันธกรณีระหว่างประเทศในหลายประการ ดังจะเห็นได้จากการปฏิบัติการในบางกรณีที่ดำเนินการในยามวิกาล โดยเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่จับกุมมีการปกปิดใบหน้าและสังกัด ในบางกรณีไม่แจ้งข้อกล่าวหาและเหตุผลในการจับกุมแก่ผู้ถูกจับกุม และมักไม่มีการแจ้งสถานที่ควบคุมตัว ทำให้บุคคลที่ถูกจับกุมหรือควบคุมตัวไม่ได้การคุ้มครองของกฎหมาย และขาดหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น สิทธิเข้าถึงทนายความ สิทธิที่จะได้พบญาติ สิทธิที่จะติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก เป็นต้น อันอาจส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามมา เช่น การทรมาน การถูกบังคับให้หายสาบสูญ เป็นต้น   ด้วยเหตุผลดังกล่าว องค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีรายชื่อปรากฏตามท้ายแถลงการณ์นี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติเคารพต่อรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศดังกล่าว โดยยุติการใช้อำนาจในการจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ และหากมีเหตุและความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคล  จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและให้บุคคลผู้ถูกจับกุมหรือควบคุมตัวได้รับสิทธิตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ และที่สำคัญต้องเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวบุคคลในทุกกรณี นอกจากนี้ ควรพิจารณายกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2558 อันเป็นที่มาของการใช้อำนาจที่ขาดการตรวจสอบ และยกเว้นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ อันอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องและกว้างขวางขึ้นในอนาคต   ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLaw)

Recent posts