20 January 2016
1079
ในวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๘ นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงานชาวอังกฤษ นายอานดี้ ฮอลล์ จะต้องเข้าสู่กระบวนการของศาลเพื่อแสดงความบริสุทธ์ “ไม่มีความผิด” ในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทและคดีด้านอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เรื่องราวเบื้องหลังของคดีนี้ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเด็นที่สร้างความตกใจในการดูแลนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และประเด็นที่ประทุขึ้นของชายคนหนึ่งที่เสี่ยงตัวเองโดยการใช้เสรีภาพของตัวเองเพื่อการปกป้องคนอื่น เรื่องราวของอานดี้ อานดี้ ฮอลล์ทางานอยู่ในประเทศไทยกว่าทศวรรษ แต่เมื่อสองปีที่แล้ว เขาได้สัมภาษณ์แรงงานข้ามชาติที่ทางานในโรงงานสับปะรดที่มีชื่อว่าเนเชอรัล ฟรุ๊ต และผลงานวิจัยของเขาได้รับการตีพิมพ์โดยองค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศฟินแลนด์ที่มีชื่อเรียกว่า ฟินวอท์ช โดยทาการเผยแพร่ในประเด็นการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในโรงงานแห่งนี้ แต่ที่น่าตกใจคือ แทนที่บริษัทดังกล่าวจะเข้าไปตรวจสอบด้านการละเมิดสิทธิแรงงานและการเอารัดเอาเปรียบแรงงานที่เกิดขึ้น ทางบริษัทเนเชอรัล ฟรุ๊ต กลับให้ความสนใจต่อเรื่องดังกล่าวด้วยการโจมตีอานดี้ ด้วยฟ้องร้องอานดี้ในสี่คดี ตั้งแต่นั้นอานดี้ต้องเดินทางไปขึ้นศาลหลายต่อหลายครั้งเพื่อต่อสู้เพื่อตัวเขาเอง และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ อานดี้จะไปที่ศาลเพื่อยืนยันว่าตน “ไม่มีความผิด” ต่อคาร้องที่เนเชอรัล ฟรุ๊ต ฟ้องหมิ่นประมาททางอาญา และความผิดด้านอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับรายงานการวิจัยของฟินวอท์ช และในครั้งนี้เขาอาจจะต้องถูกลงโทษโดยการจาคุก ๗ ปี และต้องจ่ายเสียค่าเสียหายเป็นมูลค่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ทาไมกรณีดังกล่าวถึงมีความสาคัญ ข้อกล่าวหาของกรณีนายอานดี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนที่มีความพยายามยืนหยัดเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็งต่อข้อกล่าวหาต่างๆ อานดี้ต้องการแสดงให้เห็นว่าการปกป้องดูแลนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยต้องได้รับการแก้ไข ในฐานะพลเมืองชาวอังกฤษ อานดี้ได้รับการคุ้มครองในระดับที่เขาไม่สามารถรับได้ในประเทศไทยได้ เพราะหากใครบางคนต้องการจะลุกขึ้นพูดในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน เขาอาจจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงและความไม่ปลอดภัยในระยะยาวได้ อานดี้มีความพยายามที่จะต่อสู้ต่อกรณีที่เขาถูกฟ้องร้อง แต่เขาก็ต้องเผชิญกับผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจาวันของเขามากมาย การถูกคุกคาม การขึ้นศาล และความยากลาบากในการทางาน อานดี้กล่าวว่า “มีคนมากมายถามผมตลอดเวลาว่าจะสู้ไปทาไม ทาไมไม่กลับไปประเทศอังกฤษ ตัวเองจะได้ปลอดภัย ผมตอบเขาว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของผมคนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆด้วยที่กาลังเผชิญกับการคุกคามทางกฎหมายเหมือนอย่างที่ผมเผชิญอยู่ พวกเราไม่มีสิทธิไม่มีเสียงในการท้าทายความอยุติธรรมต่างๆ” การละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นถือเป็นความรุนแรงต่อกฎหมายในระดับสากล รวมถึงสนธิสัญญาฉบับต่างๆที่ประเทศไทยให้การรับรอง และหากพูดถึงแรงงานบังคับและการค้ามนุษย์แล้วเขาไม่ควรถูกทาโทษด้วยการถูกดาเนินคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๖ ประเทศไทยให้การรับรองพิธีสารขององค์การสหประชาชาติในการป้องกัน ปราบปราม และลงโทษผู้ที่กระทาความผิดด้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในสตรีและเด็ก สถานการด้านแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่ก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้แรงงานในประเทศไทยยังถูกปฏิเสธสิทธิเสรีภาพในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม ซึ่งสิทธิด้านแรงงานทั้งสองนี้ถือเป็นมาตรฐานแรงงานหลักที่ประเทศไทยยังไม่ได้ให้การรับรอง กล่าวคือ แรงงานเหมาช่วงเหมาค่าแรง ลูกจ้างภาครัฐ หรือแม้แต่แรงงานข้ามชาติ ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถเข้าถึงเสรีภาพในการรวมตัวและเจรจาต่อรองร่วมได้ พวกเขาไม่สามารถรวมตัวเพื่อจัดตั้งสหภาพแรงงานได้ เป็นผลให้นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนและด้านแรงงานยังคงต้องทางานต่อไปเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยรับรองอนุสัญญาที่เป็นอนุสัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่างประเทศเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการคุ้มครองสิทธิคนงาน ผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนเอารัดเอาเปรียบคนงานผ่านการจ้างงานในระบบการจ้างงานแบบไม่มั่นคง ซึ่งถือเป็นรูปแบบของแรงงานทาสสมัยใหม่ที่ทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติเผชิญอยู่ ผู้นาและสมาชิก สหภาพแรงงานถูกเลิกจ้างและถูกกีดกันอย่างไม่เป็นธรรมด้วยวิธีต่างๆเวลาที่พวกเขาจะก่อตั้งสหภาพแรงงาน ในความเป็นจริงแล้วอานดี้ ไม่ใช่นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนเพียงคนเดียวที่ถูกคุกคามและถูกกลั่นแกล้ง กรณีของอานดี้นั้นกลายเป็นประเด็นสาคัญในระดับสากลที่แสดงให้เห็นถึงสภาพที่ย่าแย่ของแรงงานข้ามชาติ ในประเทศไทย โอเว่น ทูดอร์ จากสภาสหภาพแรงงานแห่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า “งานที่ [อานดี้] ทาในประเทศไทยนั้นถือเป็นงานที่สาคัญสาหรับแรงงานข้ามชาติมาก และสาหรับคนงานทั่วไปด้วย สภาพที่น่ากลัวของสถานประกอบการไทย ถือเป็นเรื่องที่สาคัญยิ่งที่เราควรตระหนักถึงว่ายังคงมีการใช้แรงงานทาสอยู่ในโรงงานไทย” การหยิบยกประเด็นของอานดี้ขึ้นมานั้นเพื่อให้เห็นว่าความไม่ยุติธรรมที่เขาถูกกล่าวหาและเผชิญอยู่นั้น พวกเราจะต้องทาให้มั่นใจว่า ในอนาคตนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆจะต้องได้รับความคุ้มครองจากการถูกดาเนินคดีที่อย่างไม่ยุติธรรมในเวลาที่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงสภาพที่ย่าแย่ของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลไทยถอนฟ้องคดีของนายอานดี้ ฮอลล์ ได้ที่ : www.walkfree.org/andyhall ------------------------------------------------------------- มูลนิธิวอร์คฟรีได้รับการสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมกว่า ๘ ล้านคนในการต่อต้านแรงงานทาสในรูปแบบใหม่ที่มียังคงมีอยู่ในยุคนี้ : www.walkfree.org. สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เป็นองค์กรแรงงานที่มีองค์กรสมาชิกจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจและเอกชนกว่า ๔๔ แห่ง โดยมีสมาชิกกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คนจากทั่วประเทศ