22 December 2015
1078
กำหนดสืบพยานโจทก์และจำเลยนัดสุดท้าย ๒๔ ธ.ค. ๕๘ คดี ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา ๒ ภาค ๙ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญากับเยาวชนไทยพุทธคนหนึ่งต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดนราธิวาส คดีหมายเลขดำที่ ๑๔๓/๒๕๕๘ ในข้อหา “สมคบกันก่อการร้าย ร่วมกันก่อการร้ายโดยการสะสมกำลังพลอาวุธ อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ใน ครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ซึ่งกำหนดนัดสืบพยานโจทก์วันที่ ๑๖ , ๑๗ และ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ นั้น การ สืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘ พนักงานอัยการโจทก์ ได้นำพยานเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดปฏิบัติการในวันเกิดเหตุ เข้าสืบจำนวน ๔ ปาก มีการกล่าวอ้างถึงขบวนการต่าง ๆ ว่าก่อความไม่สงบเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการก่อความความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และสี่อำเภอของ จังหวัดสงขลาเริ่มรุนแรงเหนักขึ้นในเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืนของกองพันทหาร พัฒนาที่ ๔ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์(ค่ายปิเหล็ง) อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ และก่อเหตุต่อเนื่องเรื่อยมา รวมทั้งเหตุการณ์คดีนี้เมื่อวันที่ ๙กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปฏิบัติการตามยุทธการพิทักษ์เทือกเขาตะเว แล้วเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบซึ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอุปกรณ์สำหรับเตรียมก่อความไม่สงบและเครื่องอุปโภคบริโภค ในได้กว่า ๖๐๐ รายการ อันเป็นเหตุนำมาซึ่งการตรวจพิสูจน์สารพันธ์กรรม (DNA) จากวัตถุพยานบางรายการที่อ้างว่าตรงกับ DNA ของเยาวชนไทยพุทธจำเลยในคดีนี้ และในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ โจทก์ได้นำพยานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าสืบจำนวน ๓ ปาก ซึ่งฝ่ายจำเลยได้ถามค้านถึงความมีพิรุธในการได้มาซึ่งวัตถุพยานและความไม่ สมบูรณ์ของการตรวจพิสูจน์ DNA เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของจำเลย สำหรับวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเดิมกำหนดสืบพยานโจทก์นั้น ศาลมีคำสั่งให้เลื่อนไปสืบทั้งพยานโจทก์ ๓ ปาก และพยานจำเลย ๒ ปาก ให้เสร็จสิ้นในวันเดียวกัน คือ วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายอับดุลเลาะห์ หะยีอาบู ทนายความมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ๐๘๙-๐๗๕๖๙๘๗ นายปรีดา นาคผิว มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ๐๘๙-๖๒๒๒๔๗๔