ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นอิสระ นำคนผิดมาลงโทษ กรณีนายอนัน เกิดแก้ว  ผู้ต้องหาเสียชีวิตปริศนาหลังสอบสวน 3 วัน

ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นอิสระ นำคนผิดมาลงโทษ  กรณีนายอนัน เกิดแก้ว  ผู้ต้องหาเสียชีวิตปริศนาหลังสอบสวน 3 วัน

19 November 2015

1031

    กรณีการ เสียชีวิตของนายอนัน เกิดแก้ว ตกเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ว่าเสียชีวิตหลังการจับกุมและสอบสวนโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 ต่อมาญาติได้รับโทรศัพท์แจ้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ว่านายอนัน เกิดแก้วเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยไม่แจ้งสาเหตุ เมื่อญาติเดินทางไปก็พบว่านายอนัน ถูกทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถสื่อสารได้ และต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 พันตำรวจตรีศิริวัฒน์ เรียมศิริ พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันว่าได้ร่วมกับพนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง แพทย์ตรวจชันสูตรพลิกศพ (Postmortem) นายอนัน เกิดแก้ว แล้ว โดยระบุว่า “ตามร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้าย” โดยพนักงานสอบสวนได้ระบุเป็นสำนวนชันสูตรพลิกศพที่ 818/2558 และญาติได้รับหนังสือรับรองการตายออกโดยโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ระบุว่า “สมองบาดเจ็บรุนแรงจากการเหวี่ยงตีกระแทกที่ศีรษะ” ทางมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมาน มีความเห็นว่า การเสียชีวิตของนายอานัน เกิดแก้ว มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเกิดจากการซ้อมทรมานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายในประเทศ แล้ว ยังเป็นการละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีและมีพันธะผูกพันต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552  ดังนั้นจึงขอเรียกร้องต่อทางราชการให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ ๑.                  ศพนายอนันจะต้องมีการผ่าพิสูตรศพ (Autopsy) โดยแพทย์นิติเวชที่มีหน้าที่ในทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด  เนื่องจากถือว่าเป็นกรณีที่การตายเกิดขึ้นในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 การผ่าพิสูจน์ศพจะทำให้ทราบสาเหตุการตายที่ชัดเจนถูกต้องตามหลักการทางนิติเวช  และย่อมจะทำให้คดีชันสูตรศพ 818/2558 ในชั้นศาลซึ่งเป็นการแสวงหาสาเหตุการตายและผู้ที่ทำให้ตายครบถ้วนชัดเจนตามขั้นตอนของกฎหมายกำหนดเพื่อใครทราบว่าใครเป็นผู้ทำให้ตาย  โดยญาติสามารถแต่งตั้งทนายความเป็นผู้ซักถามได้ในขั้นตอนคดีไต่สวนการตายในชั้นศาล ๒.                  ประเทศ ไทยในฐานะภาคีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ จะต้องดำเนินคดีเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดโดยไม่ละเว้น  อย่างไรก็ดีญาติมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมได้ทั้งทาง แพ่งและทางอาญาเพื่อนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย   นอก จากนั้นรัฐบาลไทยต้องเร่งออกกฎหมายอนุวัติการเพื่อนำพันธกรณีตามอนุสัญญามา ปฏิบัติให้ได้ผลยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการกำหนดให้การทรมานเป็นความผิดทางอาญา ๓.                  การสืบสวนสอบสวนกรณีการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัว ต้องดำเนินการโดยอิสระปราศจากการแทรกแซงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาจเกี่ยวข้อง หรือการใช้อิทธิพลใดๆในการบิดเบือนคดี ทั้งจะต้องย้ายหรือพักราชการเจ้าหน้าที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการซ้อมทรมานดังกล่าว ๔.                   สำนัก งานตำรวจแห่งชาติจะต้องกำหนดนโยบายที่ชัดเจนว่าจะไม่ใช้วิธีการสืบสวนสอบสวน คดีโดยการซ้อมทรมานอีกต่อไป จัดการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจและสำนึกว่าวิธีการดังกล่าวเป็น สิ่งที่ผิดกฎหมายและสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อาจยอมรับได้ ทั้งจะต้องมีการลงโทษทางวินัยและทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดรวมทั้ง ผู้บังคับบัญชาที่ละเลยปล่อยให้มีการซ้อมทรมานโดยไม่มีการละเว้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ  โทร. 02-6934939 และทนายความณัฐาศิริ เบิรก์แมน โทร 02-693-4939

Recent posts