ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

4 รางวัลป่างามน้ำใส ปี 2558 "เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง"

4 รางวัลป่างามน้ำใส ปี 2558

6 November 2015

1612

pro21

“ เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง ” เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนหนุ่มสาวในภาคอีสาน ที่ประกอบด้วย นิสิตนักศึกษา นักกิจกรรมทางสังคมรุ่นใหม่ และเยาวชนในพื้นที่ ที่มีความสนใจในปัญหาสังคมร่วมกัน โดยเฉพาะประเด็น การพัฒนาและคุณภาพชีวิตของผู้คนในดินแดนลุ่มน้ำโขง หรือ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักในหลายๆด้าน อาทิเช่น ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาลุ่มน้ำโขง  การสูญหายของพื้นที่ความมั่นคงทางอาหารในลุ่มน้ำโขง การเคลื่อนย้ายของแรงงานเพื่อนบ้าน ผลกระทบทางสุขภาวะของประชาชนที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาในลุ่มน้ำโขง

pro22

จากประเด็นสถานการณ์ข้างต้น “เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง” ในฐานะที่เป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว และ เป็น “กลุ่มพลังใหม่ทางสังคม” ที่ต้องการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นต่อสังคม จึงรวมตัวกัน ภายใต้เป้าหมาย ดังนี้ 1.เพื่อให้เยาวชน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ และเกิดสำนึกความเป็นพลเมือง ต่อประเด็นปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาทรัพยากรในลุ่มน้ำโขง 2.เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ระหว่าง เยาวชนคนรุ่นใหม่ ชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรเพื่อสังคมในการทำงานร่วมกัน เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3.เพื่อสื่อสารและรณรงค์ข้อมูล ความรู้ ในประเด็นปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของชุมชน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำโขงสู่สังคมสาธารณะ ให้เกิดการตระหนักรับรู้ และเตรียมพร้อมรับมือกับประเด็นปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต “ เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง ” เริ่มมีบทบาทในการติดตามและทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง และผลกระทบจากการพัฒนาในลุ่มน้ำโขงที่เกิดขึ้นกับชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง  มาตั้งแต่ เดือนมีนาคม พ.ศ.2556  จนถึงปัจจุบัน โดยร่วมกันลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนที่มีผลจากการพัฒนาในลุ่มน้ำโขง คือ การสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำในแม่น้ำโขงที่ส่งผลให้การขึ้นลงของแม่น้ำโขงมีความผันผวน  แล้วส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ทำการหาปลา และทำเกษตรริมแม่น้ำโขง  ที่บ้านน้ำก่ำตำบลธาตุพนม  อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม  และทำการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความผันผวนของแม่น้ำโขงล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม 2556  ที่บ้านสองคอน  ตำบลสองคอน  อำเภอโพธิ์ไทร  จังหวัดอุบลราชธานี  พบว่าความผันผวนของแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้น เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านที่ทำการหาปลาและทำการเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก  อีกทั้ง “ เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง ” ยังได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดินแดนลุ่มน้ำโขงในมิติต่างๆ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม  ตลอดจนการพัฒนาในลุ่มน้ำโขงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

 pro23 pro24

ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในพื้นที่             ทางกลุ่มมีความสนใจในประเด็น “ ความผันผวนของแม่น้ำโขง ที่มีผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่เกษตรริมแม่น้ำโขง ” กล่าวคือ วงจรการขึ้นลงของแม่น้ำโขงในอดีตที่ผ่านมา ในช่วงต้นฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ระดับน้ำของแม่น้ำโขงจะเริ่มลดลงลงไปเรื่อยๆ จนปรากฏเป็นผืนหาดทรายทอดยาวไปตามแนวของลำน้ำโขง ชาวบ้านสามารถเข้ามาทำเกษตรบนพื้นที่เกษตรริมโขงได้ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม – เดือนเมษายน เป็นประจำต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง ชาวบ้านสามารถทำการปลูกพืชนานาชนิด และไม้ผลยืนต้นได้อีกด้วย โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านจะมีการปลูก ข้าวโพด ยาสูบ และพืชผักสวนครัวตามความต้องการบริโภคของชุมชน และตลาด สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา แม่น้ำโขงเริ่มมีความผันผวนขึ้น - ลง ระดับน้ำมีความผิดปกติไปจากอดีตที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากการปล่อยน้ำ และกักเก็บน้ำของเขื่อนบนแม่น้ำโขงในเขตประเทศจีน ปัจจุบันมีเขื่อนที่สร้างแล้วเสร็จบนแม่น้ำโขงไปแล้ว 4 เขื่อนในประเทศจีน และกำลังดำเนินการก่อสร้าง รวมทั้งมีแผนการดำเนินงานในการสร้างเขื่อนแม่น้ำโขงประเทศจีนให้ครบ จำนวน 11 เขื่อน ตามแผนการสร้างเขื่อนบนเขตลุ่มน้ำโขงตอนบน ส่วนแผนการดำเนินการสร้างเขื่อนในเขตลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างในเขตประเทศ ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีแผนการดำเนินการสร้างเขื่อนทั้งหมด 12 เขื่อน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 1 เขื่อน ในเขตประเทศลาว คือ เขื่อนไซยะบุรี จากปรากฏการณ์ความผันผวนของแม่น้ำโขง ที่มีสาเหตุมาจากการกักเก็บ และปล่อยน้ำ ของเขื่อนในประเทศจีน ได้ส่งผลให้ชุมชนริมแม่น้ำโขงในเขตประเทศไทย ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ดังนี้ คือ - ปัญหาตลิ่งพังทลาย และพื้นที่ทำเกษตรริมโขงของชาวบ้านเกิดความเสียหาย ซึ่งมีสาเหตุจากระดับการขึ้น - ลง ของแม่น้ำโขงที่ผิดธรรมชาติ ทำให้การเกาะตัวของตะกอนดินที่สะสมในช่วงฤดูน้ำหลากหรือน้ำขึ้น และเกิดเป็นผืนดินร่วนปนทรายในบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นดินคุณภาพสูงเหมาะสำหรับการทำเกษตรเป็นอย่างมาก ได้พังทลายลงไป ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้สูญเสียที่ดินทำกินที่เป็นพื้นที่ทำการเกษตรเป็นประจำทุกปีทีมีปรากฏการณ์ความผันผวนของแม่น้ำโขง อีกทั้งปัญหาความผันผวนของแม่น้ำโขงยังได้ส่งผลให้ตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขงของชาวบ้านพังทลายลงไปเป็นอย่างมาก - ปัญหาความผันผวนของแม่น้ำโขง ยังส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงบนแม่น้ำโขง เพราะการขึ้น-ลง ที่ผิดปกติของแม่น้ำโขงที่ผิดธรรมชาติ ไม่เป็นไปตามฤดูกาล ได้ส่งผลให้ปลานานาชนิดในแม่น้ำโขง หลงฤดู เช่นปลาที่เคยขึ้นมาในช่วงเดือนมีนาคม จะขึ้นมาเร็วกว่าปกติในช่วงเดือนมกราคม - ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกษตรริมโขงของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง เมื่อน้ำโขงลดลงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านที่ทำเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขง จะเริ่มทำการปรับพื้นที่ เพื่อปลูกข้าวโพด ยาสูบ ถั่วลิสง และพืชผักสวนครัวนานาชนิด แล้วรอทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำโขงลดลง เกิดพื้นที่ทำเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก แต่ทว่าในปัจจุบัน ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ชาวบ้านประสบปัญหาน้ำโขงเอ่อล้นท่วมพื้นที่เกษตรริมโขงของชาวบ้านอย่างฉับพลัน เนื่องจากประเทศจีนมีการปล่อยน้ำจากเขื่อน ส่งผลให้วงจรการขึ้น - ลงของน้ำขึ้นสูงกว่าปกติ ทั้งที่เป็นช่วงฤดูน้ำโขงลด ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรบนพื้นที่เกษตรริมโขงของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ภายใต้ปรากฏการณ์ความผันผวนของระดับการขึ้นลงของแม่น้ำโขงที่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดความเสียหายกับพื้นที่ทำเกษตรริมน้ำโขง และตลิ่งริมฝั่งพังทลาย ปลาหลงฤดู รวมทั้งน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่เกษตรและพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน กลุ่มลุ่มน้ำโขงศึกษาจึงมีความสนใจเข้าไปศึกษาทำความเข้าใจต่อปัญหาภัยพิบัติดังกล่าวนี้ของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจสภาพปัญหาภัยพิบัติของแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้นกับชุมชน แล้วนำไปสู่การพัฒนาแนวทาง กลไกในการติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวและรับมือของชุมชนต่อปัญหาภัยพิบัติและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง 2.5 ที่ผ่านมาท่านได้ทำการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างไร ให้นำเสนอผลงานและในการแก้ไขปัญหา (เชื่อมโยงกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้อที่ 2.4) ในช่วงที่ผ่านมา “เครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่อนุรักษ์แม่น้ำโขง” เคยทำกิจกรรมในลักษณะที่เกี่ยวข้อง กับการป้องกันและติดตามผลกระทบและและการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในแม่โขงและลำน้ำสาขาที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับลำน้ำโขง อาทิเช่น
  • ()การทำค่ายอาสา เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำ ในลักษณะฝายดิน ร่วมกับชาวบ้าน บ.ปากมั่ง ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย บนลำห้วยปากมั่ง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากจากต้นน้ำบนภูเขาไหลมายังลำห้วยปากมั่ง ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง แต่จากการที่กระแสความแรงและการขึ้นลงของแม่น้ำโขงมีความผิดปรกติจากการขึ้นลงตามธรรมชาติ ในฤดูน้ำหลากน้ำจากแม่น้ำโขงจึงมีระดับน้ำสูงและเพิ่มมากขึ้น ทำให้น้ำเอ่อดันขึ้นมายังลำห้วยปากมั่ง และมารวมกันกับน้ำจากลำน้ำห้วยมั่งที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ส่งผลให้น้ำเข้าเอ่อท่วมในเขตชุมชน และพื้นที่ทำการเกษตร เสียหายเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการสร้างฝายชะลอน้ำเป็นระยะๆ ในลำห้วยมั่ง เพื่อลดกระแสความแรงของน้ำที่จะเข้าท่วมพื้นที่ และยังมีประโยชน์ในการกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในการเกษตรและอุปโภคอีกด้วย
  • ()การลงพื้นที่สำรวจศึกษาความเปลี่ยนแปลง และความเสียหายที่เกิดจากความผันผวนของแม่น้ำโขง ร่วมกับชาวบ้านและหน่วยงานท้องถิ่น ในแนวตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่เขต ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย
  • (3)ร่วมกับชาวบ้าน บ.คกเว้า ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย สำรวจแนวผลกระทบจากตลิ่งพังริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อศึกษาสาเหตุ และ หามาตรการป้องกันผลกระทบจากตลิ่งพังของฝั่งแม่น้ำโขง ที่จะเกิดขึ้นมาอีกในอนาคต
  • ()ลงพื้นร่วมกับชาวบ้าน ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงของการทำเกษตรกรรมและประมงในแม่น้ำโขง เพื่อหาทางรับมือและปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลง
  pro26   วิธีการและตัวชี้วัดการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน กระบวนการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ “ เสริมสร้างอาสาสมัครเยาวชนและชุมชนปกป้องทรัพยากรลุ่มน้ำโขง ” พื้นที่ปฏิบัติการตำบลบ้านหม้อ  อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย  มีแนวทางการดำเนินการและติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการฯ ภายใต้พื้นฐานแนวความคิดที่ คณะทำงานโครงการฯ ชาวบ้าน/เยาวชนในพื้นที่ หน่วยงานท้องถิ่น และกลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรมรุ่นใหม่ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติการโครงการฯ ได้เรียนรู้ร่วมกัน และปฏิบัติการร่วมกัน แล้วทำการสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกันหลังจากการดำเนินกิจกรรมแต่ละครั้ง อย่างเป็นกระบวนการสืบเนื่อง เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม(Social learning Process) กับผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการฯทุกคน ก่อให้เกิดดอกผลแห่งการเรียนรู้จากการปฏิบัติการจริง ด้วยการเรียนรู้ไปและปฏิบัติการไป สำหรับกรอบในการติดตามและประเมินผลจากการดำเนินกิจกรรมและภาพรวมของโครงการฯ เพื่อที่จะทำให้ทราบว่า การดำเนินกิจกรรมสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ และตัวชี้วัดโครงการฯ ด้วยเครื่องมือแผนที่ผลลัพธ์ (Outcome Mapping) เพื่อที่จะประเมิน ตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ ผลที่เกิดขึ้นจริง และผลลัพธ์ที่ได้มากกว่าที่ตั้งไว้ จากการดำเนินโครงการฯ ว่าเมื่อสิ้นสุดกระบวนการดำเนินโครงการฯ แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นบรรลุเป้าหมายและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้อย่างไรบ้าง

pro25

Recent posts