19 October 2015
1081
พรุ่งนี้ (19 ตุลาคม 2558) เวลา 10.00 น. นายโคอิ หรือคออี้ มีมิ (ปู่คออี้ อายุ 104 ปี ผู้นำทางจิตวิญญาณกะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจาน) จะเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์โดยเหตุฉกรรจ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2554 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้กระทำการหรือร่วมกันกับผู้ใต้บังคับบัญชาจุดไฟเผาหรือร่วมกันใช้จุดไฟเผา บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง และทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงที่อยู่บริเวณ ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จนได้รับความเสียหาย โดยในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไปที่บ้านนายคออี้ พร้อมอาวุธปืน และสั่งให้นายคออี้และลูกหลานออกจากบ้าน นายคออี้ปฏิเสธและบอกว่า ไปไหนไม่ได้ เพราะตามองไม่เห็น แต่เจ้าหน้าที่ก็ดึง-ลากตัวออกจากบ้านไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ในระหว่างนั้นนายคออี้ได้ขอร้องกับเจ้าหน้าที่ว่าขอเก็บของและทรัพย์สินใน บ้านเพื่อนำติดตัวลงมาด้วย และอย่าทำลายยุ้งฉาง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินใดติดตัวลงมาเลยมีเพียงเสื้อผ้าชุด เดียวที่สวมใส่เท่านั้น ในวันต่อมานายคออี้ได้ทราบจากลูกหลานว่าเจ้าหน้าที่จุดไฟเผาบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินไปหมดแล้ว การกระทำของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกดังกล่าว ถือเป็นความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ เหตุฉกรรจ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และ 218 ซึ่งระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2554 ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้ทำการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วมีมติและรายงานผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 ว่า การกระทำของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ดังกล่าว เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 นาย คออี้พร้อมชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานดังกล่าว และขอสิทธิในการกลับไปอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่บรรพบุรุษป่าแก่งกระจาน แต่จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ที่ได้ยื่นฟ้อง คดีก็ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม