ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ทุนกับงานขับเคลื่อนเครือข่ายชนเผ่า

ทุนกับงานขับเคลื่อนเครือข่ายชนเผ่า

3 September 2015

1044

    เรื่องของการระดมทุนและการจัดตั้งกองทุน จริงๆ อยากจะเท้าความเป็นมานิดหนึ่งของการจัดตั้งกองทุน เรื่องการศึกษา เมื่อก่อนนี้รัฐบาลให้งบไว้และให้ตัดไปทุกปีๆ ก่อนนี้ก็จะให้เต็มตลอด ตอนหลังนี้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนขึ้นมา แล้วก็เอาส่วนนี้ไปให้กับเด็ก ทุกปีๆรัฐบาลก็เอาเงินก้อนใส่กองทุนมากขึ้นๆ นักเรียนจบระดับประถมนี้เพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆ แล้วกองทุนก็โตขึ้น ถ้าคิดที่จะจัดตั้งกองทุนตรงนี้ไม่ว่าเราจะได้งบประมาณจากตรงไหน หากเจียดสัก 2% มาเป็นกองทุนเอาไว้ โดยมีคณะกรรมการชนเผ่าของสภาเป็นผู้ดูแลกองทุนนี้เอาเฉพาะดอกผลไปใช้ ไม่ว่ากองทุนนี้ได้เงินได้งบมาจากไหนก็เอามาใส่ไว้ หาเงินหางบมาได้ก็เอามาใส่ตรงนั้นให้เพิ่มขึ้นๆ อีก 10 ปีคงมีเงินหลายแสนหรือหลายหมื่นหรือหลายล้านก็ได้ แต่ถ้ามีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น 10 ปีก็ไม่มีอะไร แล้วถ้าไม่มีองค์กรอะไรมาหนุนเราก็จะอยู่ไม่ได้ ยี่สิบปีไม่มีใครมาหนุน องค์กรก็อยู่ได้อยู่ด้วยตัวของเองได้ ถ้าคิดยืนหยัดด้วยลำแข้งของตน ก็ต้องเริ่มต้นจากตรงนี้ไป แต่ถ้าไม่เริ่มเลย 10 ปีหรืออีกร้อยปีข้างหน้าถ้าไม่มีคนยื่นมือมาช่วยก็อยู่ไม่ได้                ทีนี้เนื่องจากว่าการเขียนโครงการขอทุนจากแหล่งต่างๆ ปกติการทำแบบนี้จะต้องมีแผน 2 ปี 5 ปี ดังนั้นถ้าไปพัฒนาต่อต้องให้ชัดว่า 5 ปีจะบรรลุอะไรจะทำอะไรบ้าง 3 ปีและสุดท้ายคือ 1 ปีจะทำให้ความคิดชัดในตัวเองชัดทั้งในแง่ของการไปขอแหล่งทุนต่างๆเพื่อมาสนับสนุนงานด้วย                 ที่ผ่านมาได้ทำเรื่องของการหนุนเสริมกลไกพัฒนาศักยภาพระดับเครือข่าย และรวบรวมฐานข้อมูล และก็อบรมเชิงปฏิบัติการ แล้วก็สร้างพื้นที่รูปธรรมให้เป็นเรื่องของการจัดที่ดินเรื่องของเขตวัฒนธรรมพิเศษหลายๆเรื่องที่มันเป็นรูปธรรมขึ้นแล้วก็พัฒนาศักยภาพแกนนำระดับพื้นที่ อันนั้นคือสิ่งที่ทั้งหมดที่วิเคราะห์ในบทเรียนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมากลยุทธ์ทิศทางในอนาคตเราจะทำยังไง ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆ คือ ประเด็นที่ 1 เรื่องมติ พรบ. เรื่องเขตวัฒนธรรมพิเศษ ประเด็นเรื่องของสิทธิ์ ประเด็นที่ 2 เรื่อง พรบ.สภา ที่เรากำลังช่วยกันก็มีหน้าที่ที่จะผลักดันร่วมกันตรงนี้ ประเด็นที่ 3 เรื่องของการจัดคณะทำงานยุทธศาสตร์ระดับเผ่า แล้วก็การจะแบ่งผู้แทนเข้าไปสู่ในระดับเป็นผู้แทนเป็น สส. หรือ สว” การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวจะต้องชัด และจะต้องพุ่งเป้ากิจกรรมเน้นให้มีบทบาทมากที่สุดก็เช่นเรื่องของ พรบ.สภา เป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันทำเรื่องนี้ให้มันบรรลุสู่เป้าหมายก็จะมีผลต่อทั้งสองเรื่องแต่ในระยะตรงนี้เป็นช่วงโอกาสที่จะต้องร่วมกัน เพราะว่าตั้งเป้าไว้อย่างเร็วที่สุดต้องเกิดไม่เกินภายใน 3 ปี แต่ถ้าภายใน3 ปีไม่ได้อย่างมากที่สุดก็ไม่ควรเกิน 5 ปี ในการวางระดับในหนึ่งปีแรกคือสิ่งที่กลยุทธ์จะต้องเตรียมต่อไปนี้ 1.เตรียมคนและแกนนำ พื้นที่ และก็กลไกในการทำงาน อันนั้นคือหนึ่งปีที่เราจะทำเพื่อเราบรรลุในเรื่องสภา พรบ. 2.เวทีถอดบทเรียนผู้มีประสบการณ์ต่างๆเราก็ต้องมาทำเรื่องนี้ด้วยเพื่อเป็นฐานข้อมูล 3.ฐานข้อมูลสมาชิกกับชุมชนในชุดของพื้นที่ต่างๆเราต้องมีข้อมูลในเรื่องของชุมชน 4.ประสานภาคีพัฒนา แล้วนอกจากนั้นก็คือสิ่งที่ทำทั้งหมดเพื่อที่จะมาร่วมสนับสนุนในการขับเคลื่อนเรื่องของสภาด้วย แล้วนอกจากนั้นเราต้องมาประเมินเรื่องของสถานการณ์การเมืองว่ามันเป็นช่วงไหนจากไหนที่เราควรจะไปเล่นเรื่องของสภา นอกจากนั้นถ้าประเมินสถานการณ์แล้วมันเรื่องของโอกาสจังหวะและควรจะยื่นข้อเสนอทางกรรมาธิการ สปชค. ปช.กกป. อันนั้นคือ 1 ปีที่อยากจะเตรียมไว้สำหรับดำเนินการ 1 ปีจากนั้น ก็ต้องมาประเมินผลกันด้วย ถ้าประเมินแล้วมันได้ผลถือว่าเราโชคดี แต่ถ้ามันยังไม่ได้ผลก็จะทำในเรื่องของการระดมการสร้างกระแสซ้ำ เพราะว่าต้องพูด เพื่อว่าจะได้ตัว พรบ.ตรงนี้ นอกจากนั้นยังต้องเปิดตัวสภาเพื่อขอประชุมสภาให้มากขึ้น ตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันผลักดันกิจกรรมสภาให้มากขึ้นเพื่อเป็นการสร้างกระแสให้กับสังคม นอกจากนั้นสรรหาทรัพยากรเพิ่มในจุดที่ว่าอาจจะต้องระดมทุนในเรื่องของแหล่งทั้งทุน ทั้งคน มาร่วมกันเพื่อที่จะมาผลักดันให้เกิดการร่วมกันเพื่อสร้าง พรบ.ให้ได้แล้วประเมินผลในรายปีต่อไปนั้นคือสิ่งที่ระยะสั้นที่สุดที่เห็นว่าปัญหาที่ต้องการที่จะผลักดันแก้ไขเร่งด่วน คืออะไร ซึ่งจะต้องชัดเจนว่าอะไรควรทำก่อนอะไรหลัง     ทีมงาน Thai CSO  รายงาน

Recent posts