ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

นักวิชาการด้านยา เตือนสติ พณ. เลิกขวางการควบคุมราคายาในร่าง พรบ.ยา หยุดเอาใจทุนข้ามชาติ

นักวิชาการด้านยา เตือนสติ พณ. เลิกขวางการควบคุมราคายาในร่าง พรบ.ยา หยุดเอาใจทุนข้ามชาติ

24 March 2015

1185

(9 มี.ค.58/กรุงเทพฯ) 12 องค์กรวิชาการด้านยา สุขภาพ คุ้มครองผู้บริโภค และวิชาชีพเภสัชร่วมจัดการประชุมวิชาการว่าด้วย ‘ปฏิรูประบบยา’ วิพากษ์ร่าง พรบ.ยาที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ผศ.ดร.ภญ. นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) ระบุว่า ขณะนี้มีความพยายามขัดขวาง ร่าง พรบ.ยา ที่ สธ.แก้ไขจากฉบับของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าสู่การพิจารณาของคณะ รัฐมนตรี ทั้งที่ร่างนี้ สธ.ได้หารือและแก้ปัญหาเรื่องนิยามยา และผู้ประกอบวิชาชีพที่สามารถสั่งจ่ายยาได้แล้ว แต่พบว่า ถูกกระทรวงพาณิชย์ขัดขวางโดยใช้ความเห็นของบรรษัทยาข้ามชาติเพื่อตัดการยื่น แสดงโครงสร้างราคายาในการยื่นขอขึ้นทะเบียนตำรับ “พณ.อ้าง ว่า กรมการค้าภายในควบคุมราคายาอยู่แล้วตามกฎหมาย แต่ที่จริงกรมการค้าภายในทำเพียงการควบคุมไม่ให้จำหน่ายเกินราคาที่ระบุโดย ผู้ผลิตเท่านั้น ทำให้ตัวเลขงานวิจัยพบว่า คนไทยบริโภคยามากกว่า 140,000 ล้านบาท รพ.รัฐซื้อยาต้นแบบในราคาแพงกว่าราคายาอ้างอิงสากลถึง 3.3 เท่า ขณะที่ซื้อยาสามัญในราคาแพงกว่า 1.46 เท่า ส่งผลต่อคุณภาพการรักษาและเศรษฐกิจของชาติเป็นอย่างมาก พณ.ไม่ทำหน้าที่แต่กลับขัดขวางกลไกที่จะควบคุมราคายา” นพ.นิ รันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์คัดค้านเรื่องยื่นแสดงโครงสร้างราคายาเมื่อขึ้นทะเบียน ยานั้น เป็นการสนับสนุนทุนข้ามชาติให้อยู่เหนืออำนาจรัฐ “ข้อ อ้างของ พณ.ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง จะกระทรบต่อนโยบายเมดิคัลฮับหรือเกรงกระทบการค้าการลงทุนนั้น จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครจะได้รับประโยชน์ในกรณีนี้ ทำให้เห็นว่า พณ. ไม่ได้ออกกฎหมาย-บังคับใช้กฎหมายที่วางอยู่บนหลักนิติรัฐและนิติธรรม แต่ความเห็นของ พณ.เป็นการทำให้ทุนข้ามชาติอยู่เหนือรัฐ ไม่ได้ทำให้กฎหมายเป็นที่พึ่งของประชาชน การค้า-การลงทุนต้องไม่เน้นเรื่องการเอาแต่ได้อย่างเดียว ต้องมีเรื่องสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของผู้บริโภค รัฐบาลพึงตระหนักว่า การปฏิรูปประเทศไทย คือการปฏิรูประบบราชการให้มีจิตสำนึกรับใช้ประชาชน ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม”   ทาง ด้าน รศ.ภก.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ สปช. ในฐานะรองประธาน กมธ.สาธารณสุข และ รองประธาน กมธ. คุ้มครองผู้บริโภค ว่า ขอเรียกร้องให้ ครม. เร่งพิจารณา ร่าง พรบ. ยา เพราะเป็นส่วนที่สำคัญของการปฏิรูประบบสุขภาพ เนื่องจากยาถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบบริการสุขภาพ พรบ.ยา ที่ใช้อยู่ไม่ทันสมัยแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2510 แม้จะมีการปรับแก้เป็นระยะแต่ก็ไม่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เทคโนโลยีและ ระบบสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปมาก   “อยากให้มีกระบวนการพิจารณากฎหมายที่โปร่งใสชัดเจน เช่น ใช้แบบฟอร์มหลักขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) อย่าง ต่อเนื่องเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจยาทั้งทางตรงและทางอ้อมต้องไม่ มาเป็น กมธ.วิสามัญในการพิจารณากฎหมาย และสำหรับสาระใน ร่าง พรบ. ส่วนใหญ่ที่ตกลงกันได้แล้ว เช่น การแบ่งประเภทยา  การผลิตยาใน สถานบริการ การจำหน่ายยา อำนาจหน้าที่ของวิชาชีพต่างๅ ฯ ในส่วนของข้อเสนอนั้น ให้มีโครงสร้างราคายา การควบคุมราคายา และข้อมูลสถานะสิทธิบัตรในตอนยื่นขอขึ้นทะเบียนตำรับยา  ใน ฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตนเห็นว่าสาระดังกล่าวถือเป็นความก้าวหน้าในกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งให้มีการนำร่าง กฎหมายนี้เข้าสู่กระบวนนิติบัญญัติ เพื่อให้ สนช. ได้พิจารณาโดยเร็ว ต้องไม่ยอมให้ภาคธุรกิจต่างชาติเข้ามาแทรกแซงหรือกดดัน เพราะ เป็นเรื่องประโยชน์และอธิปไตยของไทย”   นอก จากนี้ รศ.ดร.ดาราพร ถิระวัฒน์ ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มธ. ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นที่ขาดหายไปในร่าง พรบ.ยา ซึ่งควรเติมในช่วงการพิจารณาของ สนช. นั่นคือ การควบคุมการส่งเสริมการขายยาและการโฆษณายา   “แม้ จะมีเกณฑ์จริยธรรมควบคุมการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมแล้วก็ตาม แต่หากไม่มีการเขียนหลักในกฎหมายจะทำให้สาระของเกณฑ์ซึ่งมีความก้าวหน้ากว่า จะไม่สามารถปฏิบัติได้”   อนึ่ง การประชุมวิชาการว่าด้วย ‘ปฏิรูประบบยา’ มี องค์กรร่วมจัดประกอบด้วย กลุ่มศึกษาปัญหายา, แผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา, แผนงานพัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ, สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ, หน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม, คณะเภสัช จุฬาฯ, มูลนิธิเภสัชศาสตร์เพื่อสังคม, มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา, มูลนิธิเภสัชชนบท, ชมรมเภสัชชนบท, มูลนิธิพัฒนาการแพทย์แผนไทย, ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การประชุมจัดขึ้นที่ เรือนจุฬานฤมิตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ ผศ.ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี 081-3989953 กรรณิการ์ กิจติเวชกุล 089 500 3217 -- "เรา ไม่ได้ค้านการเจรจา FTA แต่เราต้องการให้การเจรจาเป็นไปอย่างรอบคอบและสะท้อนข้อห่วงใย ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมามี FTA จำนวนมากที่ไม่เคยคิดถึงมุมที่เรากังวล ส่วนใหญ่คนที่ได้ คือคนที่ได้อยู่แล้ว ผลประโยชน์ก็กระจุกตัว แต่ผลกระทบกระจาย บางเรื่องเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะยาวกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ" http://www.facebook.com/ftawatch Kannikar Kijtiwatchakul 089-500-3217

Recent posts