ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

เผยเด็กไทยตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ เพศ-พนันสูงขึ้น วอนรัฐออกกฎหมายคุมสื่อลามกเด็ก แนะตั้งหน่วยงานเฉพาะดูแลปัญหาพนันออนไลน์

เผยเด็กไทยตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ เพศ-พนันสูงขึ้น วอนรัฐออกกฎหมายคุมสื่อลามกเด็ก แนะตั้งหน่วยงานเฉพาะดูแลปัญหาพนันออนไลน์

19 February 2015

1264

วง เสวนาเผยเด็กไทยเผชิญภัยออนไลน์สูงขึ้นทั้งสื่อลามก-พนันออนไลน์เสนอรัฐเร่ง สร้างการรู้เท่าทัน ออกกฎหมายคุมสื่อลามกเด็กเป็นการเฉพาะ แนะตั้งหน่วยงานจัดการปัญหาพนันออนไลน์ เหตุมีกฎหมายหลายฉบับแต่ขาดกลไกในการจัดการปัญหา ในเวทีสัมมนาหัวข้อ "การป้องกันเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม" ณ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น พ.ต.อ.นิเวศน์ อาภาวศิน กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยเด็กไทยเผชิญภัยร้ายจากอินเตอร์เน็ตมากขึ้น  ทั้งเรื่องเพศ เกมออนไลน์ และการฉ้อโกง  ระบุมีเด็กไทยตกเป็นเหยื่อประมาณ 50 รายต่อเดือนเด็กผู้หญิงตกเป็นเหยื่อมากกว่าเด็กผู้ชาย เหตุรู้ไม่เท่าทัน “เทคโนโลยี ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาเรื่องสิ่งยั่วยุสำหรับเด็กมากขึ้น ทั้งเรื่องเพศ เกมออนไลน์ รวมถึงการฉ้อโกง หลอกลวงทางออนไลน์ด้วย โดยวัยที่อันตรายที่สุดคือเด็กที่สามารถออกไปนอกบ้านเองได้ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง  เพราะคนร้ายเริ่มเห็นช่องโหว่ว่าเด็กที่ใช้อินเทอร์เน็ตไม่มีความรู้เท่าทัน สื่อมากพอ จึงหลอกล่อให้เด็กตกเป็นเหยื่อ” พ.ต.อ.นิเวศน์กล่าว พ.ต.อ. นิเวศน์ กล่าวถึงข้อจำกัดของการจัดการปัญหาคือเรื่องบุคลากร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีไม่เพียงพอทำให้ต้อง ใช้เวลาในการเก็บพยานหลักฐานรวมทั้งปัญหาการรักษาบุคลากรให้อยู่กับองค์กร ด้วย เนื่องจากตำรวจที่จบคอมพิวเตอร์เมื่อมาปฏิบัติด้านนี้ มักได้เงินเดือนน้อยและไม่มีเงินประจำตำแหน่งนอก จากนี้ยังมีปัญหาการขาดอุปกรณ์ที่ทันสมัย เนื่องจากต้องรอจัดซื้อตามรอบปีงบประมาณ ซึ่งบางครั้งไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อีก ข้อจำกัดสำคัญคือ  การที่กฎหมายตามเทคโนโลยีไม่ทันการไม่ได้รับความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศนั้นมักเป็นปัญหาเรื่องการขอข้อมูลจากผู้ให้บริการ ซึ่งได้รับล่าช้า พ.ต.อ. นิเวศน์ กล่าวย้ำว่า ในการป้องกันและปราบปรามการล่อลวงเด็กทางออนไลน์นั้น การเข้าถึงข้อมูลทางออนไลน์มีความสำคัญมาก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว นางสาวศรีดา ตันทะอธิพานิช มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยกล่าว ถึงบทบาทของมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยว่า มูลนิธิเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมอินเทอร์เน็ตฮอตไลน์สากล ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปอบรมเรื่องการวิเคราะห์ภาพลามกเด็ก ซึ่งในต่างประเทศมีโปรแกรมและผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์รูปร่างหรือสรีระว่า คนที่อยู่ในภาพเป็นเยาวชนหรือไม่นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังทำงานสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้เทคโนโลยีให้กับเด็ก ปัจจุบันมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านนี้โดยตรง นาง สาวศรีดา กล่าวถึงปัญหาของการดำเนินงานในปัจจุบันคือ หาคนทำงานยาก เนื่องจากงานด้านนี้มีความเครียดสูงเพราะเจ้าหน้าที่อาจต้องอยู่กับรูปลามก เด็กเป็นเวลานาน ทั้งยังประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ และเรื่องการขาดความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากมูลนิธิไม่ได้มีอำนาจทางกฎหมาย เมื่อมีเรื่องขึ้นจึงต้องประสานความร่วมมือไปยังตำรวจ ซึ่งบ่อยครั้งคดีก็ไม่มีความคืบหน้า   นาง สาวศรีดาเน้นว่า ประเทศไทยควรต้องมีศูนย์กลางในการรับเรื่องร้องเรียนการล่อลวงเด็กทางออ นไลน์ และควรต้องมีกฎหมายคุ้มครองเด็กจากสื่อลามกเด็กเป็นการเฉพาะ ซึ่งไม่ควรใช้คำว่า "สิ่งยั่วยุ" เพราะเป็นคำที่ค่อนข้างกว้างและเปิดให้ตีความได้มากเกินไปที่สำคัญคือ ผู้ปกครอง โรงเรียน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องควรเร่งสร้างการรู้เท่าทันสื่อ และรัฐก็ควรสนับสนุนงบประมาณในเรื่องนี้ นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจากพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติกล่าวถึงภัยจากอินเตอร์เน็ตที่ส่งผลต่อเด็กและเยาวชนอย่างมากคือ การพนันออนไลน์ ทั้งนี้บท เรียนจากเรื่องการพนันออนไลน์ในช่วงฟุตบอลโลก เป็นอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ถ้าสามารถพัฒนาระบบการดูแลภายในครอบครัวได้ก็จะทำให้ลูกรู้เท่าทันการใช้ อินเตอร์เน็ต นาย พงศ์ธรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในบางประเทศการพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ทุกประเทศห้ามเด็กเล่นการพนัน และถือเป็นนโยบายที่ต้องมีการคุ้มครองป้องกัน  ขณะที่ในประเทศไทยกำหนดให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างไรก็ดี การพนันที่อยู่บนโลกออนไลน์ไม่อาจแยกแยะได้ว่าผู้พนันเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยในประเทศไทย กฎหมายที่สามารถใช้ป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันมีหลายฉบับ แต่มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้เนื่องจากขาดกลไกหลักที่จะมาจัดการกับปัญหา นาย พงศ์ธร กล่าวว่าจากการทบทวนองค์ความรู้ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการระดมความเห็นในเวลาต่างๆ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เห็นว่าทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนคือ มีการจัดตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมาดูแลด้านนี้ โดย ตรง แม้ว่าปัจจุบันมีกรรมการคุ้มครองเด็กระดับชาติ แต่กรรมการดังกล่าวประชุมเพียงปีละสองครั้ง  จึงไม่อาจรับมือกับปัญหาการพนันออนไลน์ของเด็กที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตาม เทคโนโลยี ตอนนี้เรามีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองและป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันอยู่หลายฉบับ เช่น พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 ที่ระบุห้ามเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเล่นการพนัน และ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่ให้การคุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้เล่นการพนันและเข้าถึงพื้นที่ที่จัดให้มีการพนัน แต่ที่ยังเป็นปัญหาคือเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้  ซึ่งบทเรียนจากการมีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 24 เรื่องห้ามไม่ให้ มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย อาจจะเป็นโมเดลการจัดการเรื่องนี้ที่ต้องมีหน่วยงานดูแลอย่างชัดเจน และนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ภาครัฐควรจะจัดตั้งองค์กรกลางในการจัดการและ บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งอาจจะต้องทำงานร่วมกับภาคประชาสังคม เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้รับความคุ้มครองและป้องกันความเสี่ยงที่จะเข้า ไปอยู่ในวงจรการพนัน” ทั้งนี้การสัมมนาหัวข้อ "การป้องกันเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเป็น ส่วนหนึ่งของ "เวทีว่าด้วยการอภิบาลอินเทอร์เน็ตและการเตรียมตัวขององค์กรประชาสังคมใน ประเทศไทย" ซึ่งจัดโดยมูลนิธิเอเชียสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น  โครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดผลกระทบจากการพนันมูลนิธิ สาธารณสุขแห่งชาติมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และองค์กรเครือข่าย **************************   เผยแพร่โดย โครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดผลกระทบจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ โทร. 02-511-5855-7 www.thainhf.org/icgp  

Recent posts