ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

คดีนักศึกษายะลาถูกซ้อมทรมาน ศาลปกครองสูงสุดกำหนดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก

คดีนักศึกษายะลาถูกซ้อมทรมาน ศาลปกครองสูงสุดกำหนดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก

19 December 2014

1387

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ( สนส.) ได้รับหมายแจ้งจากศาลปกครองสูงสุดกำหนดวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลา เวลา 09.30น. ที่ศาลปกครองสูงสุด ชั้น 3 ห้องพิจารณาคดีที่ 12 ซึ่งคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีสิทธิยื่นคำแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาล ก่อนหรือในวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก  และในวันนั่งพิจารณาครั้งแรกคู่กรณีก็สามารถขออนุญาตศาลเพื่อแถลงด้วยวาจา ได้อีกด้วย คดี นี้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 ศาลปกครองสงขลาได้อ่านคำพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงาน ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายระหว่างนาย อิสมาแอ เตะ ผู้ฟ้องคดี ที่ 1 และนายอามีซี มานาก ผู้ฟ้องคดีที่ 2 กับกองทัพบก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กองทัพบก) ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง โดยชำระเงินแก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 จำนวน 255,000 บาท และผู้ฟ้องคดีที่ 2 จำนวน 250,000 บาท เนื่องจากควบคุมตัวไว้เกินกำหนด 7 วันตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457  อีกทั้งเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษอันเป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิของบุคคล อื่น จึงควรต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและต้องแก้ไขเยียวยาความเสียหายให้แก่บุคคล ซึ่งรับผลดังกล่าว กรณีเจ้าหน้าที่ใช้กำลังทำร้ายผู้ฟ้องคดีทั้งสองในระหว่างการจับกุมและควบ คุมตัว ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ได้ยื่นพยานหลักฐาน จึงน่าเชื่อว่าบาดแผลตามที่แพทย์วินิจฉัยไว้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ฟ้องที่ 1 จำนวน 5,000 บาท ส่วนผู้ฟ้องคดีที่ 2 ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดๆ ว่าถูกการกระทำร้ายร่างกาย ศาลจึงไม่อาจกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้ได้ ส่วนคำขออื่นให้ยก และให้ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (กระทรวงกลาโหม) ผู้ ฟ้องคดีทั้งสองได้ยื่นฟ้องกระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ให้รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดภาคใต้ซึ่งอยู่ใน สังกัดของตนที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามพระราชบัญญัติความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 รวมถึงเรียกค่าเสียหายในส่วนของการทำร้ายร่างกายและการซ้อมทรมาน และผู้ฟ้องคดีไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาดังกล่าวบางส่วน จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 โดยมีประเด็นการอุทธรณ์ดังต่อไปนี้ การ รับฟังข้อเท็จจริงของศาลปกครองสงขลาปราศจากพยานหลักฐานและคลาดเคลื่อนไปจาก ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนคดี เนื่องจากไม่ปรากฏว่าพบเอกสารหรือไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามที่ศาลมีคำ พิพากษาแต่อย่างใด การควบคุมตัวผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากมีการทำร้ายร่างกายและซ้อมทรมาน ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดการการซ้อมทรมานและการเสียศักดิ์ศรีถูกดูหมิ่นและค่าเสียหายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 32 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จัดการ ให้ชื่อเสียงของผู้ฟ้องคดีทั้งสองกลับคืนดีโดยจัดให้มีประกาศหนังสือพิมพ์ ท้องถิ่นอย่างน้อยสองฉบับ ฉบับละสามวันติดต่อกัน หรือหนังสือชี้แจง หรือหนังสือเวียนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกฟ้องคดี คดี นี้นับว่าเป็นคดีแรกที่เหยื่อผู้ถูกควบคุมตัวและซ้อมทรมานตามอำนาจของกฎ อัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องคดีเพื่อให้ หน่วยงานรัฐ (กองทัพบกและกระทรวงกลาโหม) ผู้ฟ้องคดีทั้งสองต้องอาศัยความกล้าหาญและเข้มแข็งอย่างมากในการตัดสินใจ ฟ้องและดำเนินคดีถามหาความเป็นธรรมและการเยียวยาจากหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็น ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ทหารผู้ทำละเมิด  โดยหวังว่าการใช้สิทธิตามระบบกระบวนการยุติธรรมนี้จะส่งผลให้หน่วยงานแก้ไข ปรับปรุงบรรทัดฐานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย พิเศษที่ เพื่อดำรงหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้คงอยู่   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคดีได้ที่: สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน:02-6930682 http://naksit.org/index.php/allcases  

Recent posts