23 September 2013
1025
ปรัชญากฎหมายในประเทศที่เป็นอารยะนั้นือว่ากฎหมายเป็นเครื่องมือให้คนในสังคมได้พึ่งพาและใช้เพื่อผดุงไว้ซึ่งความถูกต้องเป็นธรรมเพื่อให้นำมาซึ่งความสงบสุข เสมอภาค เท่าเทียมกันของทุกๆ ผู้คน แต่กระนั้นในทางปฏิบัติ กฎหมายกลับถูกคนอำนาจ มีเงินเข้าถึงมากกว่า กรณีชาวบ้านต่อสู้คัดค้านเหมืองทองที่ จ.เลย ก็เช่นกัน ทั้งๆ ที่ลำพังที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงปากท้องตนก็ทุกข์หนักยากนานอยู่แล้ว วันนี้กลับต้องมาป่วย ต้องมาพรากจาก จากการทำเหมือง และจวบจนบัดนี้การทำเหมืองทองคำก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เยียวยา หนำมิซ้ำชาวบ้านกลับถูกซ้ำเติมด้วยความทุกข์ยากจากสายตาและเสียงครหาจากฝ่ายที่มีอำนาจและทุนเสียอีก เมื่อถูก บริษัท ทุ่งคำ นายทุนใหญ่จ้างทนายยื่นฟ้อง 14 แกนนำกลุ่มรักษ์บ้านเกิดจากกรณีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย ปิดถนนเมื่อวันที่ 6 กันยายน และการพยายามเข้าไปในเวทีรับฟังความเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตการศึกษา EHIA เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา สำหรับชาวบ้านแล้ว พวกเขาได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองของบริษัท ทุ่งคำ ที่เริ่มขึ้นที่ภูทับฟ้าและภูซำป่าบอนเมื่อปี 2549 ได้ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะบ้านนาหนองบงได้รับสารพิษอย่างรุนแรง โดยหน่วยงานราชการได้ตรวจพบสารหนู แมงกานีส ในระบบประปาบาดาลและในเลือดเกินมาตรฐาน ชาวบ้านเจ็บป่วย บางรายเสียชีวิต สาธารณสุขจังหวัดได้ออกประกาศห้ามใช้น้ำบาดาลในบางหมู่บ้าน อีกทั้งห้ามรับประทานหอยขมเพราะพบสารหนูเกินมาตรฐาน นอกจากนั้นกรมควบคุมมลพิษยังตรวจ พบ สารหนู แคดเมี่ยม แมงกานีส เกินค่ามาตรฐานอีกด้วย แต่ปัญหาเหล่านี้ของชาวบ้านยังไม่ได้รับการแก้ไข บริษัทกลับขออนุญาตเปิดพื้นเหมืองเพิ่มโดยกีดดัดกันชาวบ้านออกไปจากกระบวนการทำ EHIA แต่การต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวบ้านกลับถูกตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องถึง 50 ล้าน ดังนั้นในขณะนี้ความทุกข์ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองทองคำ จ.เลย จึงไม่ได้มีเพียงแค่ความทุกข์ทางกาย แต่ยังเกิดความทุกข์เชิงสังคม (social suffering) จากการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการทำ EHIA และการถูกฝ่ายบริษัทใช้กฎหมายเข้าจัดการกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ แทนที่จะแก้ปัญหาที่ตนบริษัทก่อขึ้น