Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ตัวแทนจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และผู้นำด้านป่าไม้จากทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วมงานประชุมป่าไม้โลกครั้งที่ 14 ที่เมืองเดอร์บัน

ตัวแทนจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และผู้นำด้านป่าไม้จากทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วมงานประชุมป่าไม้โลกครั้งที่ 14 ที่เมืองเดอร์บัน

8 September 2015

583

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตัวแทนจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และผู้นำด้านป่าไม้จากทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วมงานประชุมป่าไม้โลกครั้งที่ 14 ที่เมืองเดอร์บัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้โดยมุ่งหวังจัดสรรและกำหนดนโยบายป่าไม้โลกให้เท่าเทียมกัน

7 กันยายน 2558

การประชุมป่าไม้ระดับโลกครั้งที่14 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2558 ณ เมืองเดอร์บัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง มีตัวแทนจากภาครัฐ ผู้นำด้านป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจเอกชนจากหลายประเทศทั่วโลกกว่าสี่พันคนยืนยันเข้าร่วม โดยให้ให้การตระหนักถึงประเด็นหลักที่ว่า “การลงทุนส่งเสริมด้านป่าไม้เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมระดับโลกใหญ่ที่สุด ซึ่งจัดขึ้นทุก 6 ปี โดยมีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ จะเข้าร่วมประชุมเพื่อถกถึงปัญหาสำคัญต่างๆ เช่น ศักยภาพในการจัดการป่าไม้ด้วยตนเองเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของคนท้องถิ่นให้ดีขึ้น ปัญหาโลกร้อน และนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านป่าไม้ อีกทั้งยังเป็นเวทีพูดคุยสำคัญสำหรับผู้นำภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ระดับสูงกว่า 20 คน เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตด้านป่าไม้โลก และมุ่งรณรงค์ให้มีการลงทุนส่งเสริมด้านป่าไม้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญของการดำเนินงานสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals: SDGs ต่อไป

การประชุมนี้เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปแอฟริกาโดยเลือกจัดขึ้นที่ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้เพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างประเทศในปี พ.ศ.2505ของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้  โดยจะมีการกล่าวปาฐกถาและแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นการจัดการธรณีในทวีปแอฟริกาจาก CycrilRamaposa, ผู้แทนประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เจ้าชายลอร์เรน มกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม ทูตพิเศษจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติและ NkosazanaDlamini-Zuma ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกา อีกทั้งยังร่วมกันเป็นสักขีพยานในการเปิดงานประชุมเวทีป่าไม้โลกครั้งนี้ด้วย

อีกทั้ง ยังมีเวทีแถลงผลรายงาน “การประเมินสถานการณ์ทรัพยากรด้านป่าไม้โลกในรอบ 25 ปีเพื่อหาข้อมูลสำคัญที่นำไปสู่การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน”โดย Jose Graziano Da Silva ผู้อำนวยการจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ

ผลของการประชุมป่าไม้โลกครั้งนี้มุ่งหวังให้ประชาคมโลกร่วมกันกำหนดอนาคตป่าไม้และวิสัยทัศน์ปี2593ด้านการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นแนวทางเพื่อนำไปสู่เวทีการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC COP21) ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงปารีสในเดือนธันวาคมนี้

ดร.ทินท์ ลวิน ทอง ผู้อำนวยการศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (รีคอฟ) เปิดเผยข้อมูลและแนวคิดที่น่าสนใจว่า " รีคอฟมาร่วมงานประชุมเวทีป่าไม้โลกครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำให้ทุกเสียงและข้อเสนอแนะจากประสบการณ์ของตัวแทนท้องถิ่นนั้นได้รับการรับฟังและพิจารณาจากผู้นำที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านป่าไม้ระดับโลก ขณะที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวกับข้องกับป่าไม้เห็นพ้องกับแนวทางการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และมีความพยายามที่จะแลกเปลี่ยนหาบทสรุปว่า เราจะเดินไปทิศทางไหนซึ่งเราเองต้องตระหนักถึงผู้คนที่มีฐานะยากจนอีกกว่า 350 ล้านคนจากทั่วโลกที่ต้องพึ่งพาและฝากชีวิตไว้กับผืนป่า และผู้คนส่วนใหญ่กว่า 1.6 พันล้านคนต้องพึ่งพาพวกเขาอีกทอดหนึ่งซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ คนที่อาศัยอยู่กับป่านั้นถือว่ามีความรู้ด้านการจัดการป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะองค์ความรู้และประสบการณ์เกิดจากสิ่งที่พบเจอและบทเรียนที่สั่งสมจากรุ่นต่อรุ่น ซึ่งความรู้นี้มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้จริง ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่มีศักยภาพเพียงพอและพึ่งพิงผืนป่าอีกทั้งบางคนยังเป็นผู้นำและกำหนดนโยบายนั้นถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกัน และลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ"

และครั้งนี้นับเป็นโอกาสและพื้นที่สำคัญยิ่งสำหรับการมีส่วนร่วมจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยทางศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (RECOFTC) และองค์กรร่วมจัดได้คัดเลือกตัวแทนผู้เข้าร่วม 6คน (เมียนมาร์, กัมพูชา, เวียดนามและไทย) จากท้องถิ่นและชุมชนด้านป่าไม้ กลุ่มเกษตรรายย่อยสมาชิกป่าชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์ในงานประชุมเตรียมความพร้อมระดับภูมิภาคที่กรุงเทพฯ ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ให้ออกเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่รีคอฟอีกจำนวน 7 คน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกันออกเสียงแสดงความคิดเห็นเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 25 เวทีย่อย รวมถึงเป็นตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกร่วมกันจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “I am the Forest” ในวันที่ 8 กันยายนนี้ ณ ห้อง 11 CDE เวลา 19.30 น. (ศูนย์ประชุมนานาชาติเมืองเดอร์บัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้) ซึ่งถือเป็นเวทีจากตัวแทนชาวบ้านท้องถิ่นที่จะสะท้อนเสียงความต้องการจากชุมชนท้องถิ่นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างแท้จริงซึ่งแต่ละประเทศกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในประเด็นต่างๆ เพื่อพัฒนาเป็นข้อเสนอแนะในการสร้างความตระหนักรู้ว่าการจัดการดูแลป่าไม้อย่างยั่งยืนนั้นควรเกิดจากระดับท้องถิ่นชุมชนอย่างแท้จริง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กำหนดการการประชุมป่าไม้โลกและเวทีเสวนา “ I am the Forest”   สามารถดูได้ที่ http://www.recoftc.org/events/recoftc-wfc2015

หรือหากสื่อมวลชนสนใจสัมภาษณ์ตัวแทนชาวบ้านท้องถิ่นจากเวทีป่าไม้โลก http://us1.campaign-archive1.com/?u=a79eee76ce1869204bc04a12d&id=a0116ae1cd  สามารถติดต่อนัดหมายและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • กรุงเทพฯ สุชารัตน์ สถาพรอานนท์ (ภาษาไทย), sucharat.sathapornanon@recoftc.org,โทรศัพท์ +66 (0) 80 897 2125
  • In Bangkok, Mr. Jephraim Oro, Communication Officer, RECOFTC, +66 (0)80 897 2125 jephraim.oro@recoftc.org (English)

·        In Durban: Ms. Caroline Liou, Communication Manager, RECOFTC, mobile +66 (0)86 067 3228  caroline.liou@recoftc.org (English)

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

  • เวทีป่าไม้โลกครั้งที่ 14,www.fao.org/about/meetings/world-forestry-congress/en/ and www.wfc2015.org.za/
  • ประเทศต่างๆ ในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกมีการพัฒนาประเทศให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว  ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างมากมายต่อป่าไม้และคนในท้องถิ่นชนบท   ทำให้ความต้องการของการใช้ประโยชน์และผลิตภัณฑ์จากป่าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าไปตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น สวนปาล์ม สวนยาง รวมทั้งการทำเหมือง และทำโครงการพลังงานน้ำต่างๆ  ซึ่งการถางป่าและเผาอย่างไม่หยุดยั้ง จนเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกนับล้านๆ ตัน  ในขณะที่ยังมีคนชนบทในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกมากกว่า 450 ล้านคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับป่าและยังคงมีวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพิงป่า รวมทั้งการใช้ประโยชน์และใช้ผลผลิตจากป่าเช่นเดียวกัน, จากข้อมูล กรณีศึกษาและรายงานจาก www.recoftc.org

 

Recent posts