2174
วันที่ 3 มิถุนายน 2563 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ – ผาจันได ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ว่ามีการติดประกาศเกี่ยวกับการประกาศพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูหินจอมธาติ – ภูพระบาท (อุทยานแห่งชาติภูผายาเดิม) ภายหลังมีการสำรวจพื้นที่ของสำนักบริหารพื้นที่ ๑๐ (อุดรธานี) ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ ในเขต ๓ จังหวัด คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอย และป่านากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู (พื้นที่หลัก) ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ และป่ากุดจับ จังหวัดอุดรธานี และป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกผาดำ ป่าโคกหนองข่า และป่าภูบอบิด จังหวัดเลย
โดยในประกาศอ้างถึงการจัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย ในพื้นที่ที่จะอยู่ในเขตจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ แต่อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ พบว่ามีการจัดรับฟังความคิดเห็นมาแล้ว ๒ ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๖๒ ชาวบ้านยืนยันว่าไม่ยินยอมให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อุทยานฯ เพราะทับที่ดินทำกินและเป็นแหล่งหาอยู่หากินของชาวบ้าน ซึ่งในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่มารับฟังฯได้รับคำคัดค้านชาวบ้านไปแล้วว่าจะไม่มีอุทยานแห่งชาติเกิดขึ้น
และอีกครั้งหนึ่งคือเมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา กลับมีการพลิกลิ้น กลับคำ โดยแจ้งให้ชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่ที่มีใบ ภบท.๕ ไปยืนแปลง ชี้แนวเขตที่ดินทำกินใกล้พื้นที่ป่าสงวนฯ ซึ่งทำให้ชาวบ้านหลายคนหวั่นใจว่าจะถูกหลอกให้ไปชี้พื้นที่ แล้วจะถูกยึดตามนโยบายทวงคืนผืนป่า เหมือนที่ ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ในขณะที่ชาวบ้านต้องหวาดระแวง และกังวลต่อการสูญเสียที่ดินทำกิน สูญเสียพื้นที่สาธารณประโยชน์/พื้นที่ส่วนรวมที่ช่วยกันดูแลรักษา เพื่อหวังจะได้พึ่งพาอาศัยหาอาหารเลี้ยงปากท้อง แต่ฝั่งอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการทำลายภูเขา ทำลายป่า ทำลายแหล่งต้นน้ำ ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จากการทำเหมืองหินปูน กลับไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะหน่วยงานของรัฐได้จับมือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าต้องกันเขตเหมืองหินปูนออกจากเขตอุทยานฯ
โดยกรมป่าไม้ ได้ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ กันเขตพื้นที่ที่ได้อนุญาตให้ภาครัฐหรือเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ออกก่อนกำหนดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ในปี ๒๕๕๔
จะเห็นได้ว่ากฎหมายและนโยบายของรัฐไม่เคยเอื้อประโยชน์แก่ประชาชน แต่มักจะเอื้อประโยชน์ทุกทางให้กับนายทุนเสมอ
.
ในขณะที่การเรียกร้องสิทธิการเข้าถึงที่ดินทำกินของประชาชน ต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่เป็นคนในพื้นที่ ได้อยู่อาศัยและปกป้องรักษาผืนป่าในพื้นที่มาโดยตลอด แต่เมื่อได้รับความเดือดร้อนไม่เคยถูกมองเห็น แต่ฝั่งที่เป็นผู้ทำลาย กลับถูกปกป้อง คุ้มครองโดยรัฐอยู่เสมอ
ซึ่งสามารถเข้าไปทำลายและตักตวงผลประโยชน์โดยไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจใด ๆ
ดังนั้นกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯจึงสมควรถูกสังคมตั้งคำถามต่อความจริงใจ ความโปร่งใส เมื่ออ้างถึงการอนุรักษ์ดูแลป่า
หากการประกาศเขตอุทยานฯรอบนี้มีการทวงคืนผืนป่าจากประชาชน เราก็คงจะได้เห็นการทวงคืนผืนป่าจากบริษัทเหมืองแร่เช่นเดียวกัน
เว้นเสียแต่ว่ากรมป่าไม้ตั้งใจจะเก็บป่าสงวนฯไว้สำหรับการทำเหมืองเท่านั้น ด้วยการอนุญาตให้เหมืองแร่เข้าใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวน ป่าเก่ากลอย และป่านากลางไปอีก ๑๐ ปี
ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797
ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016
อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849
Email : webmaster@thaingo.org
Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00
2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310
+662 314 4112