1706
ปัญหา
ของการประกาศแหล่งหินอุตสาหกรรม
เขาเหล่าใหญ่-ผาจันได กลุ่มภูเขาลูกโดดใน ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เป็นพื้นที่ประทานบัตรทำเหมืองหินปูนของนายทุนรายหนึ่ง และกำลังมีกรณีพิพาทขัดแย้งกับชุมชนอยู่ในขณะนี้ เป็นแหล่งหินแหล่งหนึ่งที่ถูกประกาศกำหนดเป็นพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างไว้ตั้งแต่อยู่ในระหว่างบังคับใช้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 หรือกฎหมายแร่ฉบับเดิม ซึ่งมีข้อกังขาว่าการประกาศกำหนดเป็นพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นการประกาศภายใต้บทบัญญัติมาตราใดของกฎหมายแร่ฉบับเดิม เพราะเท่าที่สำรวจตรวจดูก็ไม่พบว่ามีบทบัญญัติมาตราใดของกฎหมายแร่ฉบับเดิมอนุญาตให้ทำการประกาศเช่นนั้นได้
ต่อมาเมื่อพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 หรือกฎหมายแร่ฉบับใหม่ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2560 แทนกฎหมายแร่ฉบับเดิม ก็ได้กำหนดให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ (ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแร่ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ. 2560 – 2564) ขึ้นมา
โดยมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามมาตรา 19 ว่าการอนุญาตให้ทำเหมืองให้พิจารณาอนุญาตได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็น ‘เขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง’ เท่านั้น และตามมาตรา 17 วรรคสี่ ว่า “พื้นที่ที่จะกำหนดให้เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองต้องไม่ใช่พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เขตโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เขตพื้นที่ที่มีกฎหมายห้ามการเข้าใช้ประโยชน์โดยเด็ดขาด พื้นที่เขตปลอดภัยและความมั่นคงแห่งชาติ และพื้นที่แหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซับซึม”
แต่ยุทธศาสตร์และแผนแม่บทฯดังกล่าวซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 กลับระบุให้ “พื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ตามมติ ครม. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม และประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ประกาศก่อนกฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ และที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดแหล่งหินอุตสาหกรรม (อุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง) ของกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว แต่ไม่สามารถประกาศได้ทันก่อนวันที่กฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้” เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองได้
และยังมีพื้นที่อีก 4 ประเภท ถูกระบุไว้ในยุทธศาสตร์และแผนแม่บทฯดังกล่าวให้เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองได้เช่นเดียวกัน ดังนี้
(1) พื้นที่ตามประทานบัตร คำขอต่ออายุประทานบัตร และคำขอประทานบัตรที่ได้ออกให้หรือได้ยื่นไว้ตามกฎหมายแร่ฉบับเดิม ก่อนวันที่กฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้
(2) พื้นที่ตามอาชญาบัตรและคำขออาชญาบัตรที่ได้ออกให้หรือได้ยื่นไว้ตามกฎหมายแร่ฉบับเดิม ก่อนวันที่กฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ เฉพาะพื้นที่ที่ผลการสำรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นแหล่งแร่อุดมสมบูรณ์และมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
(3) พื้นที่ประกาศกำหนดพื้นที่เป็นเขตสำหรับดำเนินการสำรวจ การทดลอง การศึกษาหรือการวิจัยเกี่ยวกับแร่ที่ออกตามกฎหมายฉบับเดิม ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่กฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ เฉพาะพื้นที่ภาคอีสานที่มีแร่โพแทชและเกลือหินเป็นชนิดแร่เป้าหมายของการประกาศ ที่มีผลพิสูจน์ได้ว่าเป็นแหล่งแร่อุดมสมบูรณ์และมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
(4) พื้นที่ที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการทำเหมืองประเภทที่ 1 ตามมาตรา 53 ของกฎหมายแร่ฉบับใหม่ หรือกรณีการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง หรือกรณีการทำเหมืองประเภทอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติกำหนด
นั่นแสดงว่ายุทธศาสตร์และแผนแม่บทฯดังกล่าวเป็นเอกสารที่ขัดต่อกฎหมายแร่ฉบับใหม่ เพราะสิ่งที่ควรทำคือนำประกาศแหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่ประกาศครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก่อนวันที่กฎหมายแร่ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งมีจำนวนรวมกัน 325 แหล่งหิน รวมเป็นพื้นที่ 143,713 ไร่ มีปริมาณสำรองรวมกันถึง 8,127 ล้านเมตริกตัน มาชำระล้างใหม่ด้วยการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมายแร่ฉบับใหม่ ว่าภูเขาลูกใดหรือแหล่งหินใดบ้างเป็นพื้นที่ตามมาตรา 17 วรรคสี่ ที่ไม่ควรถูกประกาศเป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง
ดังเช่นที่เขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ที่พบแหล่งโบราณคดีอายุย้อนหลังประมาณ 3,000 ปี และพบว่าเป็นแหล่งต้นน้ำและป่าน้ำซับซึมสำคัญที่มีน้ำไหลซึมเล็ดลอดขึ้นมาจากใต้ดินเกือบทั้งปี ซึ่งควรถูกกันออกจากการเป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองตามกฎหมายแร่ฉบับใหม่โดยทันที
การกลั่นแกล้งทางการเมือง โดยกระบวนการยุติธรรม
เป็นเหตุการณ์ที่ชวนให้สับสนยิ่งที่มีผู้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ว่ามีแนวคิดและเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีความเชื่อมโยงกับองค์กรลับอย่าง 'อิลลูมินาติ' (Illuminati) (ซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีหนังสือแจ้งไปยังพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนตามการร้องขอของพรรค และได้นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีนี้ในเวลา 11.30 น. ของวันที่ 21 มกราคม 2563) นั้น แท้จริงแล้ว หากมีองค์กรลับอย่างอิลลูมินาติที่มีทั้งเงินและอำนาจบนโลกนี้จริง องค์กรลับดังกล่าวน่าจะอยู่ฝั่งรัฐบาลไทยเสียมากกว่าอยู่ฝั่งพรรคฝ่ายค้านอย่างอนาคตใหม่ เพราะถ้าองค์กรลับดังกล่าวอยู่ฝั่งพรรคอนาคตใหม่จริง เหตุใดพรรคอนาคตใหม่ถึงโดนกลั่นแกล้งอย่างโหมกระหน่ำทุกทิศทางจากกลไกรัฐเยี่ยงนี้
โดยเฉพาะการใช้กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งพรรคอนาคตใหม่อย่างไร้มนุษยธรรม
ไม่เพียงแค่คดีอิลลูมินาติ ยังมีคดีกู้เงินที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องให้ยุบพรรคจากกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 โดยให้เวลาพรรค 15 วัน เพื่อส่งเอกสารชี้แจง และคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พ้นสภาพการเป็น ส.ส. จากกรณีถือหุ้นสื่อไปแล้ว อีกด้วย
สถานการณ์ดังกล่าว ค่อนข้างทำให้การเมืองในปี 2563 น่าจะร้อนแรงจนอาจจะถึงทางตันได้ตั้งแต่ต้นปีทีเดียว เหตุเพราะว่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวของมวลชนที่ไม่พอใจต่อการนำเอากระบวนการยุติธรรมมากลั่นแกล้งพรรคอนาคตใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นมวลชนที่ค่อนข้างจะประสานการเคลื่อนไหวทั้งในสื่อสังคมออนไลน์และบนท้องถนนเข้าด้วยกันอย่างมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในฝ่ายรัฐบาลเอง ก็พยายามหล่อเลี้ยงและสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้เกิดขึ้นเพื่อกระชับอำนาจให้เข้มแข็งขึ้น ด้วยความหวังว่าถ้ายุบพรรคอนาคตใหม่ได้จริง จะทำให้ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่แตกพรรคเสียจนทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอลง พรรคเพื่อไทยจะถูกโดดเดี่ยวลอยแพจนไม่สามารถเป็นฝ่ายค้านอย่างมีพลังได้อีกต่อไป หากปราศจากพรรคอนาคตใหม่ร่วมวงไพบูลย์
นั่นคือมุมวิเคราะห์ของฝ่ายรัฐบาลที่เห็นว่าสามารถควบคุมความขัดแย้งให้อยู่ในกรอบการกดปราบได้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็ประมาทไม่ได้ทั้งสองฝ่าย อาจจะจริงอย่างที่ฝ่ายรัฐบาลวิเคราะห์คาดการณ์ หรืออาจจะมีตัวแปรอื่นที่เล็ดลอดจากการวิเคราะห์คาดการณ์ของฝ่ายรัฐบาลจนทำให้ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของมวลชนที่เกลียดชังรัฐบาลให้อยู่ในกรอบการกดปราบได้ จนกลายเป็นลุกลามบานปลายและขับไล่รัฐบาลอย่างมีพลัง
ต้องรอดูกิจกรรม ‘วิ่ง-ไล่-ลุง’ ที่จะเริ่มเขี่ยลูกพร้อมกันหลายจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคในวันที่ 12 มกราคม 2563 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีองค์กรลับอิลลูมินาติในวันที่ 21 มกราคม 2563 นี้ ว่าจะทำให้กระแสมวลชนที่เกลียดชังรัฐบาลจุดติด โดยสามารถทำการเคลื่อนไหวอย่างแผ่วงกว้างหลังเดือนมกราคม 2563 ได้หรือไม่ แค่ไหน อย่างไร
ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797
ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016
อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849
Email : webmaster@thaingo.org
Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00
2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310
+662 314 4112