Back

แถลงการณ์ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดยะลา อ้างว่า ถูกแทรกแซงความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี

9 October 2019

2053

แถลงการณ์ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดยะลา  อ้างว่า ถูกแทรกแซงความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี
แถลงการณ์

ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดยะลา

อ้างว่า ถูกแทรกแซงความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี

 

            ตามที่ปรากฏข่าวจากสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ว่า นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลจังหวัดยะลา ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ 4  ศาลจังหวัดยะลา ภายหลังจากที่อ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีหนึ่ง

            ต่อมาปรากฏแถลงการณ์ในสำนวนคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ 3428/2561  ศาลจังหวัดยะลา โดยมีนายคณากร เป็นผู้ลงชื่อท้ายคำแถลงนั้น อ้างถึงเหตุการณ์ เกี่ยวกับการทำคำพิพากษาของนายคณากร ที่ต้องส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ตรวจ โดยมีผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องทำบันทึกความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับร่างคำพิพากษาของนายคณากรที่พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 5 และให้นายคณากรทำคำพิพากษาใหม่ตามความเห็นของหัวหน้าภาคกับอธิบดีผู้พิพากษาภาค ซึ่งคัดค้านและขอแก้ไขคำพิพากษานั้นไม่ได้เป็นไปตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 11(1) และไม่มีกฎหมายรองรับให้สามารถทำได้ นอกจากนี้ ในคำแถลงยังระบุว่ามีวิธีการปฏิบัติในลักษณะเดียวกันนี้อีกในอีกหลายคดี

             จากกรณีที่นายคณากรกล่าวอ้างนั้น สะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาการขาดความเป็นอิสระในการพิพากษาคดีของผู้พิพากษา ซึ่งถูกกำหนดให้ต้องรายงานและส่งร่างคำพิพากษาให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคตรวจสอบก่อน ตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยมาตรฐานการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ.2560  ซึ่งต่อมาถูกยกเลิกและแทนที่โดยระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการรายงานคดีสำคัญในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกาและรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ.2562  ระเบียบดังกล่าวเป็นช่องทางให้เกิดการแทรกแซงความเป็นอิสระในการพิพากษาคดีขึ้นได้  

            หากข้อเท็จจริงเป็นดังเช่นแถลงการณ์ของนายคณากร  ย่อมสร้างความเสียหายให้กับระบบกระบวนการยุติธรรมและก่อความเสียหายแก่ประชาชนอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของประเทศได้

การป้องกันการการแทรงแซงอำนาจตุลาการในการพิจารณาพิพากษาคดีนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และองค์กรภาคประชาสังคมที่มีรายชื่อด้านล่างนี้ จึงขอเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

 

1.       ขอให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่นายคณากรกล่าวอ้างในคำแถลงการณ์ โดยคณะกรรมการต้องอิสระและเป็นกลาง หากพบการกระทำความผิดก็ให้ดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาตามกระบวนการต่อไปโดยเร็ว  และแจ้งผลต่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ทั้งนี้ ก.ต. ต้องดำเนินการเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของนายคณากร และครอบครัวในระหว่างที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นายคณากรอยู่ในภาวะที่สามารถให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างอิสระ ไม่ถูกข่มขู่ คุกคามจากบุคคลใด

2.       ขอให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาทบทวนแก้ไข ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการรายงานคดีสำคัญในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกาและรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ.2562 และสร้างกลไกอย่างเป็นทางการเพื่อให้เกิดการพิจารณาคดีอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และป้องกันไม่ให้มีการแทรกแซงความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และให้ผู้พิพากษาที่ถูกแทรกแซงสามารถร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้อย่างปลอดภัย  ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชณอาณาจักรไทย มาตรา 188

3.       ขอให้ผู้พิพากษาทุกท่านมีความกล้าหาญทางจริยธรรมและไม่ยอมจำนนต่ออำนาจอิทธิพลนอกกฎหมาย รวมทั้งอคติของผู้ใด อันจะทำให้การพิจาณาพิพากษาคดีเสียความยุติธรรมไป  ทั้งนี้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้พิพากษาในการสร้างความเป็นธรรมในสังคม

4.       ขอให้สื่อมวลชนทั้งหลายนำเสนอข่าวโดยเคารพจรรยาบรรณสื่อมวลชน เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนให้เป็นประเด็นทางการเมือง อันอาจก่อให้เกิดความแตกแยกแบ่งฝ่าย หรือลดทอนศักดิ์ศรีของบุคคลใด และขอให้ใช้โอกาสนี้นำเสนอข่าวเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ทั้งนี้ สมาคมฯ และองค์กรภาคประชาสังคมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเกียรติศักดิ์และความมั่นคงของสถาบันตุลาการ จะดำรงอยู่และเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของประชาชนได้นั้น  จะต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องรับฟังความคิดเห็นและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน  

 

ด้วยความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

แถลงมา ณ วันที่  7 ตุลาคม 2562

กรุงเทพมหานคร

 

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน                               

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน                  

สมาคมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม     

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน                              

ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม                          

ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น 

ศูนย์กฎหมายสิทธิชุมชน

ศูนย์กฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนภาคอีสาน

มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา

มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน

มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม

 

 
" สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) "

About Us

เว็บไทยเอ็นจีโอ สนับสนุนการใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์และเผยแพร่แนวคิดวัฒนธรรมเสรี เนื้อหาในเว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอดอทโออาจี ท่านสามารถเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงท่านระบุที่มาและห้ามทำการค้า

ThaiNGO Team

ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797

ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016

อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849

Email : webmaster@thaingo.org

Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00

Contact Info

2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310

2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310

+662 314 4112